นายมุนแจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และนายคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ประกาศว่าทั้งสองประเทศจะร่วมกันกำจัดอาวุธนิวเคลียร์ออกจากคาบสมุทรเกาหลี ตั้งแต่หลังการเจรจากันที่หมู่บ้านพันมุนจอมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และยังยืนยันว่าจะทำสัญญาสันติภาพ ยุติสงครามเกาหลีที่ยืดเยื้อมาเกือบ 70 ปี ภายในปีนี้ด้วย แต่ล่าสุด โฆษกประธานาธิบดีเกาหลีใต้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ระหว่าการเจรจาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายคิมยืนยันว่าจะสั่งปิดฐานทดลองนิวเคลียร์ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ และย้ำว่าเขาไม่ได้ปิดเฉพาะฐานนิวเคลียร์ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วอย่างที่หลายฝ่ายวิจารณ์ แต่ยังมีอุโมงค์ขนาดใหญ่อีก 2 แห่งที่อยู่ในสภาพดี และใหญ่กว่าอุโมงค์ที่นานาชาติทราบว่าเป็นฐานทดลองนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

นายคิมยังกล่าวอีกด้วยว่าเขาจะไม่ทำให้ความทรงจำอันเจ็บปวดแบบสงครามเกาหลีต้องเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 2 จะต้องมีกระบวนการป้องกันไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าทางทหารโดยไม่จำเป็น และแม้เขาจะต่อต้านอเมริกา แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่จะยิงขีปนาวุธใส่สหรัฐฯ เกาหลีใต้ หรือมหาสมุทรแปซิฟิก

การปิดฐานทดลองนิวเคลียร์ดังกล่าวจะทำอย่างเป็นทางการ โดยเกาหลีเหนือจะเชิญนักข่าวและผู้เชี่ยวชาญจากเกาหลีใต้และสหรัฐฯร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีปิดด้วย โดยการประกาศปิดฐานนิวเคลียร์อย่างเป็นทางการของเกาหลีเหนือครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำว่าเกาหลีเหนือตั้งใจจริงในการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ หลังจากที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ต่างตั้งคำถามว่าการเจรจาที่ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จนี้ ยังไม่มีการกำหนดอย่างเป็นรูปธรรมว่ากระบวนการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือจะทำอย่างไร และที่ผ่านมา การเจรจาในทำนองนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว แต่ก็ล้มเหลวไป เมื่อเกาหลีเหนือหันไปทดลองอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้ง และเกาหลีใต้ได้ประธานาธิบดีจากฝ่ายอนุรักษ์นิยม

นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังจะปรับเวลาของประเทศ ที่ปัจจุบันเหลื่อมกับเกาหลีใต้ครึ่งชั่วโมง ให้อยู่ในไทม์โซนเดียวกันด้วย เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และความสะดวกในการติดต่อประสานงานระหว่างสองฝ่าย โดยโฆษกประธานาธิบดีเกาหลีใต้กล่าวว่านายคิมปรารภในระหว่างการเจรจาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าเขารู้สึกเจ็บปวดใจอย่างมากที่เห็นนาฬิกา 2 เรือนที่แขวนอยู่ในทำเนียบสันติภาพ สถานที่จัดการเจรจา บอกเวลาต่างกันระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ และเมื่อเกาหลีเหนือเป็นผู้เปลี่ยนแปลงเวลามาตรฐาน เกาหลีเหนือจะเปลี่ยนกลับมาใช้เวลาเดียวกับเกาหลีใต้ตามเดิม