'มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข' สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดใจ หลังกระแส "ไลออน มัส หรือ ลิออน มัส" (LionMuss) ที่เธอพิมพ์ผิดในทวิตเตอร์ ขณะที่ทวีตข้อความเกี่ยวกับ อีลอน มัสก์ เสนอความช่วยเหลือการกู้ภัยเด็ก 13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำ-นางนอน โดยเธอยอมรับว่า ข้อความดังกล่าวเกิดจากความผิดพลาดของตัวเอง ที่ไม่ได้ใส่ใจชื่อเจ้าของบริษัท สเปซเอ็กซ์ เพราะมองว่าการช่วยเหลือดังกล่าว ไม่ตรงกับความต้องการของทีมกู้ภัย และพยายามอ้างตัวเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ และขอโทษที่รีบสื่อสารเกินไปจนไม่ได้ระวังคำผิด แต่กระแสที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของคนในโลกโซเชียลที่ชอบขยี้ความผิดของผู้อื่น แม้ว่าตนจะรับผิด หรือขอโทษแล้วก็ตาม
เธอกล่าวว่า บนโลกนี้มีทั้งคนชื่นชอบและไม่ชอบเป็นธรรมดา เธอไม่เคยท้อใจหรือเสียใจที่มีคนมาถล่มวิพากษ์วิจารณ์เธอ อะไรที่ชี้แจงได้ก็ชี้แจง อะไรไร้สาระก็ปล่อยวาง หรืออะไรเยอะไปก็ด่ากลับ แต่อยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง และข้อสำคัญคือต้องมีสติ แล้วจะมีทักษะในปัญหาเฉพาะหน้า เธอบอกว่าข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่ีง คือ การเป็นตัวของตัวเอง ไม่สร้างตัวตนในโลกออนไลน์
"เราผิดครั้งเดียว คนก็พร้อมจะขยี้ไปอีก 5 ปี ถ้าไม่ยอมรับในสิ่งที่เป็น แสดงว่าคุณสตอเบอร์รี่ เราเป็นคนแบบนี้ ... ฉันต้องเปลี่ยนแปลงตัวตนเพื่อใคร? แล้วระยะเวลาที่ฉันต้องเปลี่ยนแปลงตัวตนที่ไม่ใช่ตัวฉันนั้น ฉันมีความสุขไหม ถ้าไม่ใช่ ไม่ต้องเปลี่ยน"
เธอเล่าให้ฟังว่าเหตุการณ์บนโลกออนไลน์ที่รุนแรงที่สุดคือ กรณีคลิปโป๊คนหน้าเหมือน แต่ไม่ใช่ตัวเอง เธอก็ไม่คิดอะไร และใช้มาตรการทางกฎหมายจัดการสักคนสองคนให้เป็นแบบอย่างคนอื่นๆ ก็จะไม่กล้าไปเอง ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสมัยที่ทำงานเป็นนักข่าวอยู่ไอทีวี เธอเคยโดนขวดน้ำเขวี้ยงใส่ขณะรายงานข่าว, ส่งจดหมายมาข่มขู่, หรือเคยมีตำรวจมาหาถึงสถานี
"คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกโซเชียล สื่อเกิดขึ้นได้ในระยะ 2 วา ใกล้ตัวเรา ใครก็สามารถมาแทรกแซงชีวิตของเราได้ทุกตารางเมตรที่เดิน เราต้องปลง และอย่าตกเป็นเหยื่อของคนที่มาด่าเรา เพราะเขาเป็นใครก็ไม่รู้ อาจจะเป็นเฟซบุ๊กปลอม"
นอกจากนี้ เธอยังเผยว่า ความฝันลึกๆ ในวงการการเมือง คือ การเป็นนายกรัฐมนตรีหญิง แต่ความเป็นจริงคงเป็นไปได้ยาก เธอเข้าสู่วงการการเมืองมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพียงเพราะ พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ชวนให้ไปช่วยงาน เพราะไม่มีคนลงรับสมัครเลือกตั้งในเขตจังหวัดพะเยา เธอจึงเข้าสู่วงการนี้ โดยเริ่มจากการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง 4 เดือน 270 เวที แต่สุดท้ายก็สอบตก แม้เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอถึงกับร้องไห้ และนึกย้อนกลับมาว่า เธอทิ้งชีวิตนักข่าว ผู้ประกาศข่าวที่กำลังรุ่งโรจน์มาเพื่อแพ้หรือเปล่า แต่จุดนั้นมันทำให้เธอเข้มแข็งที่สุดในชีวิต เพราะเราได้ตัดสินว่าต่อจากนี้จะใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง หรือจะใช้ชีวิตเพื่อคนอื่นให้มีความหมายอย่างไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :