ไม่พบผลการค้นหา
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุมใหญ่ หลังประชุมนานกว่า 5 ชั่วโมง เตรียมเลือกหัวหน้าพรรค และกำหนดสัดส่วนกรรมการพรรคเป็นผู้หญิงและคนรุ่นใหม่

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สรุปผลการประชุมใหญ่ เพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับใหม่ โดยมีสาระสำคัญ 3 ส่วน ได้แก่ 

หนึ่ง สัดส่วนของกรรมการต่างๆ ได้แก่ กรรมการบริหารพรรค 41 คนต้องประกอบด้วยผู้หญิง 10 คน และกรรมการสรรหาผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 11 คน ประกอบด้วยผู้หญิง 3 คน และคนที่อายุถึงไม่ 35 ปี 1 คน เพื่อให้มีความก้าวหน้าทางสังคมมากขึ้น

สอง บรรจุนโยบายพรรคเข้าไปในข้อบังคับพรรค

  • ด้านเศรษฐกิจ พัฒนาตัวชี้วัดที่หลากหลาย และให้ความสำคัญกับประชาชนที่มีรายได้น้อย ยากจน เน้นแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และขจัดการผูกขาด เอารัดเอาเปรียบ ส่วนการเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน พรรคต้องเชื่อมโยงประเทศไทยเข้ากับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฐานะศูนย์กลาง, พัฒนาเมืองหลักในประเทศไทยให้เป็นมหานครในอาเซียน, แก้ปัญหาเหลื่อมล้ำและความยากจนด้วยการเก็บภาษี และหลักประกันรายได้
  • ด้านการศึกษา เปลี่ยนการเรียนการสอนจากให้ความรู้เป็นพัฒนาทักษะผู้เรียน, กระจายอำนาจการบริหารสู่สถานศึกษา
  • ด้านสาธารณสุข ปรับปรุงคุณภาพสาธารณสุข ควบคุมไม่ให้โรงพยาบาลเอาเปรียบผู้บริโภคและให้บริการผู้ป่วยติดเตียงถึงบ้าน
  • ด้านสังคม ยอมรับความหลากหลายในสังคม ปฏิรูปตำรวจและกระบวนยุติธรรม
  • ด้านสิ่งแวดล้อม เน้นการพัฒนาประเทศเป็นที่มิตรกับสิ่งแวดล้อม และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการวางแผนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
  • ด้านการเมือง พรรคประชาธิปัตย์พร้อมผลักดันให้บ้านเมืองกลับสู่ประชาธิปไตย และแก้ไขกฎหมายที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เป็นแบบอย่างในการเข้าสู่ระบอบการเลือกตั้งโดยไม่ลุแก่อำนาจ และยอมรับการถ่วงดุล ตรวจสอบความโปร่งใสจากทุกภาคส่วน รวมทั้งกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น 

สาม การเลือกหัวหน้าโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการหยั่งเสียง จากนั้นจึงจัดประชุมใหญ่พรรคอีกครั้งในเดือน พ.ย. เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรค 

ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ระเบียบเรื่องการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคไม่มีใครโต้แย้ง และตนมอบให้คณะกรรมการบริหารพรรคดำเนินการภายในสัปดาห์นี้ และจะเปิดรับสมัครผู้ชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีกครั้ง โดยสมาชิกพรรค และผู้ที่เคยเป็นสมาชิกกว่า 2.5 ล้านคน ที่ไม่เคยลาออก และไม่เคยสมัครสมาชิกพรรคการเมืองอื่น มีสิทธิ์มาร่วมหยั่งเสียงได้

ระเบียบวิธีการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้

ส่วนเรื่องวิธีการหยั่งเสียงและการนับคะแนน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้มีการเสนอ ไว้ 2 รูปแบบคือนับคะแนนแบบคณะผู้เลือกตั้งกับแบบหนึ่งคนหนึ่งเสียง ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ตนเองจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องเพราะเป็นผู้มีส่วนได้เสีย จึงมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารพรรคดำเนินการร่างระเบียบและวิธีการที่จะออกตามมาภายในสัปดาห์นี้ ก่อนให้ผู้เสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งพิจารณาแสดงความเห็นร่วมกันอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าวิธีการจะเป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย ไม่ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการแข่งขัน รวมถึงจะไม่เกิดปัญหาด้านข้อกฎหมายในภายหลัง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากเดินทางไปปฏิบัติภารกิจผู้แทนพรรคเสรีนิยมประชาธิปไตยที่ประเทศแอฟริกาปลายสัปดาห์หน้า ก็จะตัดสินใจอีกครั้งว่าจะเสนอชื่อเข้าชิงเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ หากตัดสินใจเสนอชื่อเข้าชิงก็พร้อมจะยุติการทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้าพรรค แม้จะไม่สามารถลาออกให้บุคคลอื่นมารักษาการแทนได้ เนื่องจากจะกระทบต่อโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรค และคาดว่ากระบวนการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคจะเสร็จสิ้นภายในต้นเดือน พ.ย. นี้ ก่อนให้ที่ประชุมใหญ่พิจารณาให้ความเห็นชอบหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :