ไม่พบผลการค้นหา
'พริษฐ์' ยืนยันไม่เห็นความจำเป็น 'วิปรัฐบาล' จ่อเลื่อนระเบียบวาระอื่นแทรกคิวญัตติประชามติจัดทำ รธน. ใหม่ มองไม่ต้องกังวลซ้ำซ้อน คกก.ของรัฐบาล เหตุเป็นกลไกคู่ขนาน ชี้ประชาชนจับตาดูอยู่สมเหตุสมผลหรือไม่

วันที่ 24 ต.ค. ที่พรรคก้าวไกล พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.แบบบัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงมติของวิปรัฐบาลที่จะเลื่อนนำระเบียบวาระอื่นมาแทรกคิวญัตติเดิมที่เรื่องแรกจะเป็นญัตติพิจารณาประชามติเพื่อนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ตนเองและพรรคก้าวไกลเป็นผู้เสนอนั้น โดยทางพรรคก้าวไกลเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องเลื่อนระเบียบวาระอื่นเข้ามาแทรก สามารถดำเนินการตามระเบียบวาระเดิมได้

ส่วนที่วิปรัฐบาลกังวลว่า ญัตติดังกล่าวจะซ้ำซ้อนกับการทำงานของรัฐบาล แต่ส่วนตัวไม่ได้มองอย่างนั้น เนื่องจาก พ.ร.บ.ประชามติ ปี 2564 ระบุว่าการเสนอทำประชามติ สามารถเสนอได้ผ่าน 3 กลไกคู่ขนานกัน คือ รัฐบาลเป็นเริ่มผู้ริเริ่มการดำเนินการ หรือให้ประชาชนร่วมกันเข้าชื่อ หรือ สส. เป็นผู้เสนอ โดยผ่านความเห็นชอบจากทั้ง 2 สภา

พริษฐ์ กล่าวว่า ถ้าสามารถดำเนินการตามระเบียบวาระเดิม และเปิดให้มีการอภิปรายในวันพรุ่งนี้ได้ ไม่ว่ารัฐบาลจะมีจุดยืนอย่างไรก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลทั้งนั้น โดยความเป็นไปได้แรกคือ หากรัฐบาลเห็นตรงกับพรรคก้าวไกลว่าควรเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญด้วยประชามติที่มีคำถามตรงไปตรงมา ก็คงใช้เวลาอภิปรายไม่นาน แล้วจึงมีการลงมติ เพราะญัตติดังกล่าวก็เคยถูกเสนอมาแล้วเมื่อสมัยประชุมที่ผ่านมา และสภาก็ลงมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์

ขณะที่ความเป็นไปได้ที่สอง คือรัฐบาลอาจยังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับคำถามประชามติและวิธีดำเนินการ ดังนั้น การมีโอกาสอภิปรายในสภาก็น่าจะเป็นการรวบรวมความเห็นที่ดี แม้คณะกรรมการศึกษาการจัดทำประชามติของรัฐบาลมี 30 กว่าคน แต่พื้นที่สภาก็มีประโยชน์ต่อรัฐบาลในการรับฟังความเห็นของผู้ได้รับการเลือกจากประชาชนอย่างแท้จริง

และความเป็นไปได้ที่ 3 คือรัฐบาลอาจมีจุดยืนเรื่องการทำประชามติที่แตกต่างจากพรรคก้าวไกล พรรคก้าวไกลในฐานะฝ่ายค้านก็เหลือเพียงกลไกสภาเพียงช่องทางเดียวเพื่อโน้มน้าวเพื่อนสมาชิกในฝ่ายนิติบัญญัติ

สำหรับทางออกของเรื่องนี้ พริษฐ์ กล่าวว่า ภาระการพิสูจน์จะอยู่ที่ สส.ฝั่งรัฐบาล เพราะอย่างแรก สส.ของรัฐบาลก็ต้องเป็นผู้เสนอให้เลื่อนวาระอื่นเข้ามาแทรกคิว ซึ่ง สส.ฝ่ายรัฐบาลก็จะต้องเป็นผู้พิสูจน์ว่ามีเหตุผลความจำเป็นอย่างไรที่ต้องเลื่อนระเบียบวาระ ส่วนเจตนาในการเลื่อนระเบียบวาระของฝ่ายรัฐบาลเป็นอย่างไรนั้น ก็ต้องถามฝ่ายรัฐบาล แต่ทางพรรคก้าวไกลยืนยันว่าไม่มีความซ้ำซ้อน

ทั้งนี้ พริษฐ์ กล่าวว่า คงต้องมีความพยายามหารือกันระหว่างวิปทั้ง 2 ฝ่าย ตามระบบรัฐสภา ถ้าจะมีการลงมติ สส.ฝ่ายรัฐบาลก็เป็นเสียงข้างมาก แต่นอกจากเรื่องตัวเลขแล้ว ประชาชนก็จับตาดูอยู่ว่าผลจะเป็นเช่นไร และมีความสมเหตุสมผลหรือไม่