การยกทัพเข้าสู่ไครเมียโดยกองกำลังของยูเครนในครั้งนี้ เกิดขึ้นในขณะที่ยูเครนกำลังเฉลิมฉลอง เนื่องในวาระครบรอบ 32 ปีวันเอกราชของประเทศ ที่ประกาศแยกตัวออกจากสหภาพโซเวียต
กระทรวงกลาโหมยูเครนระบุว่า วัตถุประสงค์ทั้งหมดของ "ปฏิบัติการพิเศษ" ยกพลขึ้นบกบนไครเมียบรรลุผล โดยไม่มีผู้เสียชีวิตใดๆ รายงานยังระบุเสริมอีกว่า ในระหว่างการสู้รบในเมืองโอเลนิฟกา และมายักทางตะวันตกของแหลมไครเมียนั้น ส่งผลให้ “ศัตรูได้รับความสูญเสีย”
อย่างไรก็ดี สำนักประธานาธิบดีรัสเซียยังคงไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใดๆ เพิ่มเติมต่อรายงานในครั้งนี้
หน่วยงานข่าวกรองหลักของกระทรวงกลาโหมยูเครน ออกมาอ้างผ่านโพสต์บนเทเลแกรม ถึงการเป็นผู้มีส่วนรับผิดชอบต่อปฏิบัติการเมื่อวันพฤหัสบดี (24 ส.ค.) โดยระบุว่ากองทัพเรือยูเครนเป็นผู้ให้การสนับสนุนในปฏิบัติการครั้งนี้
รายงานจากทางยูเครนยังระบุด้วยว่า "หน่วยพิเศษบนพาหนะทางน้ำขึ้นเทียบบนชายฝั่ง" ก่อนที่จะเข้าสู้รบกับกองทหารรัสเซียที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว “นอกจากนี้ ธงประจำรัฐได้โบกสะบัดอีกครั้ง ในแหลมไครเมียของยูเครน” คำแถลงของกระทรวงกลาโหมยูเครนระบุเสริม
หน่วยข่าวกรองยูเครนได้โพสต์วิดีโอสั้น ที่อ้างว่าเป็นภาพทหารยูเครนกำลังชูธงชาติยูเครน ในขณะที่ยังคงมีเสียงปืนดังอยู่ในพื้นหลังของภาพ ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์ Suspilne ของยูเครนรายงานว่า การปะทะกันดังกล่าวเกิดขึ้นทั้งในการต่อสู้ผ่านเครื่องบินและกองทัพเรือ นอกจากนี้ ช่องทาง Telegram ของรัสเซียยังรายงานตรงกันว่าเกิดการสู้รบในพื้นที่ดังกล่าว
โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เผยแพร่ข้อความวันประกาศอิสรภาพทาง X ซึ่งเดิมชื่อทวิตเตอร์เพื่อระดมประชาชนเพื่อนร่วมชาติของเขา ในการช่วยรักษาเอกราชของประเทศเอาไว้ “ในการสู้รบนี้ ทุกคนต่างก็มีความสำคัญ เพราะการต่อสู้มีไว้เพื่อบางสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกคน” เซเลนสกีกล่าว
ตามการสำรวจของสถาบันสังคมวิทยานานาชาติเคียฟ วันประกาศอิสรภาพยูเครนได้รับความสำคัญเพิ่มขึ้นในหมู่ชาวยูเครน นับตั้งแต่การรุกรานเต็มรูปแบบของรัสเซีย ที่เริ่มขึ้นในเดือน ก.พ. 2565 โดยปัจจุบันนี้ ประชาชนยูเครนมองว่าวันดังกล่าวเป็นวันหยุดที่สำคัญที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองจากเทศกาลอีสเตอร์และคริสต์มาสเท่านั้น
ทั้งนี้ ยูเครนเปิดฉากการยกทัพรุกตอบโต้การยึดครองดินแดนโดยรัสเซียในเดือน มิ.ย. โดยกองทัพยูเครนพยายามขับไล่รัสเซียออกจากดินแดนที่พวกเขายึดครองไป ทางตะวันออกและทางใต้ของประเทศ
ที่มา: