นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า การบริหารงานของกระทรวงพาณิชย์ ทำให้เกิดการขาดแคลนหน้ากากอนามัยเป็นวงกว้างทั่วประเทศ ประชาชนต้องหาซื้อในราคาแพงถึง 20-30 บาทต่อชิ้น และยังไม่มีหลักประกันว่าจะได้สินค้าที่มีคุณภาพ
สาเหตุของความผิดพลาดเกิดจาก
1. ความรอบรู้เป็นเท็จ และการคาดการณ์ด้านตัวเลขที่บกพร่อง ตัวเลขในสต็อกคือเท่าไร โรงงานมีจำนวนเท่าใด กำลังผลิตที่แท้เป็นเท่าไร กระทรวงให้ข้อมูลไม่ตรงกันมาโดยตลอด
2. การตัดสินใจที่ไม่อยู่บนพื้นฐานของเหตุผล การประกาศกำหนดราคาต้นทุนในการผลิตไม่เกิน 2.00 บาท และให้จำหน่ายให้ประชาชนไม่เกิน 2.50 น. ไม่ได้พิจารณาบนพื้นฐานการเปลี่ยนแปลงราคาวัตถุดิบ ซึ่งนับวันจะแย่งชิงกันทั่วโลก และราคาสูงขึ้นนับสิบเท่า
3. กลไกการบริหารจัดการแบบราชการ ใช้วิธีการออกคำสั่ง ขาดการติดตาม มีแต่แก้ไขปัญหาแบบรายวัน ยกตัวอย่างเช่น มีกำหนดการขายหน้ากากอนามัยที่ทำเนียบ 15 วันแล้วก็ยกเลิกเมื่อจำหน่ายได้วันเดียว มีหน่วยรถ mobile แล้วก็ยกเลิก ส่งให้ร้านธงฟ้า แล้วก็บอกว่า มีรั่วไหล ตรวจสอบไม่ได้ ล่าสุด ก็ประกาศยกเลิกอีก แทนที่จะฮึดสู้และหาทางแก้ข้อบกพร่อง
4. กฎระเบียบที่ไม่ทันต่อสถานการณ์ เมื่อถึงจุดที่การผลิตในประเทศไม่เพียงพอต้องมีการนำเข้าหน้ากากอนามัยจากต่างประเทศ ภาษีนำเข้า 40 เปอร์เซ็นต์ ก็กลายเป็นข้อจำกัดที่ทำให้ราคาที่จะมาจำหน่ายแก่ประชาชนสูงขึ้นอีก สถานการณ์วิกฤตเช่นนี้ควรลดภาษีเป็น 0 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่ เพื่อให้ประชาชนมีหน้ากากใช้ให้ทั่ว
5. การทำงานอย่างบูรณาการ 24 ชั่วโมงยังไม่เกิด กระทรวงใครกระทรวงมัน ไม่ล้ำเส้น ห้ามวิจารณ์กัน ขาดการประสาน ขาดการกำหนดทิศทางที่ร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ ไม่มีการวิเคราะห์ถึงภาพทัศน์ที่ตามมาหลังจากการตัดสินใจของแต่ละฝ่าย เช่น เรื่องปิดเมืองวันอาทิตย์ แทนที่จะมีมาตรการรองรับคนตกงานทันที กลับต้องรอประชุม ครม.วันอังคารเพื่อออกมาตรการรองรับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง