วันนี้ (2 ธันวาคม 2567) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับ นายเอลีอุด คิปโชกี (Mr. Eliud Kipchoge) ตำนานนักวิ่งมาราธอนโลกและแชมป์โอลิมปิก 2 สมัยจากเคนยา ที่ได้เดินทางมาเข้าร่วมการแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก ครั้งที่ 7 ประจำปี 2567 หรือ "วิ่งผ่าเมือง ปีที่ 7" (Amazing Thailand Marathon Bangkok 2024) 

การจัดงานวิ่งมาราธอนนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 7 โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรุงเทพมหานคร การกีฬาแห่งประเทศไทย กองบัญชาการตำรวจนครบาล และไทยแลนด์ไตรลีก นอกจากจะเป็นการแข่งขันเพื่อชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและสนับสนุนการออกกำลังกายผ่านการวิ่ง ซึ่งได้รับความสนใจจากนักวิ่งทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เข้าร่วมมากกว่า 3 หมื่นคน

นายกรัฐมนตรี รู้สึกยินดีที่ได้ต้อนรับนักวิ่งมาราธอนระดับโลกในการมาเยือนไทย และได้ร่วมการแข่งขันวิ่งมาราธอนฯ ซึ่งทราบมาว่าได้รับการตอบรับจากนักวิ่งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมจำนวนมากถึง 3 หมื่นคน โดยการร่วมงานวิ่งมาราธอนครั้งนี้ของนายเอลีอุด คิปโชกี 

นับเป็นการส่งเสริมให้คนไทยและนักวิ่งในภูมิภาคเห็นถึงความสำคัญของการออกกำลังกายผ่านการวิ่ง สอดคล้องกับแนวโน้มที่ผู้คนเริ่มมุ่งเน้นเรื่องสุขภาพและการเล่นกีฬามากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวของไทยในฐานะสถานที่สำหรับนักวิ่งจากทั่วโลกอีกด้วย  

ด้านนายเอลีอุด คิปโชกี ขอบคุณรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ให้โอกาสมาร่วมงานกันผ่านความร่วมมือด้านกีฬา ซึ่งนำมาซึ่งความสามัคคีและมิตรภาพใหม่ ๆ พร้อมเห็นพ้องกับนายกรัฐมนตรีที่มองว่ากีฬาเป็นวิธีที่ง่ายในการเชื่อมโยงผู้คนทั่วโลก แม้ว่าจะมีวัฒนธรรมและภาษาที่แตกต่างกัน แต่เมื่อมีกีฬาเป็นกุญแจสำคัญที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน นับเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่กีฬาได้กลายเป็นภาษาที่ทุกคนเข้าใจ

นายกรัฐมนตรียังยินดีที่ทราบว่านายเอลีอุด คิปโชกี ได้เป็น “ทูตด้านการท่องเที่ยวกีฬาและวัฒนธรรม” ของประเทศไทยเป็นระยะเวลา 3 ปี เชื่อว่ารัฐบาลและนายเอลีอุด คิปโชกี จะสามารถทำหลายสิ่งหลายอย่างร่วมกัน เพื่อสนับสนุนให้ผู้คนออกกำลังกายมากขึ้น การที่มีนักวิ่งระดับตำนานของโลกมาวิ่งในไทยเปรียบเสมือนกับการโฆษณาประเทศไทย รัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนในทุกด้านที่ทำได้ เพื่อช่วยส่งเสริมความร่วมมือทั้งในระดับวงการกีฬาวิ่ง รวมทั้งความร่วมมือทวิภาคีระหว่างประเทศไทยและเคนยา โดยหวังว่าครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่คนไทยและเคนยาจะได้มาร่วมฝึกซ้อม สร้างความสัมพันธ์ และนำไปสู่การแลกเปลี่ยนเยี่ยมเยือนระหว่างคนไทยและเคนยามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้นักกีฬาของไทยได้มีการแลกเปลี่ยนการฝึกซ้อมกับนักวิ่งจากเคนยาซึ่งเป็นนักวิ่งระดับโลก