ไม่พบผลการค้นหา
หญิงสาววัย 24 ถูกกระแสน้ำพัดเสียชีวิต ขณะพยายามเดินทางไปยัง 'รถบัส' ชื่อดัง จากหนังเรื่อง 'Into the Wild'

'เวรามิกา ไมคามาวา' หญิงสาวชาวเบลารุสวัย 24 ปี เสียชีวิตบนเส้นทางเดินถนน 'แสตมเพด' ในรัฐอะแลสกาของสหรัฐอเมริกา หลังเธอและ 'พิออท มาเกียเลา' สามีวัยเดียวกัน พยายามเดินทางไปยังรถบัสชื่อดัง จากหนังสือและภาพยนตร์เรื่อง 'Into the Wild'


จากคำแถลงของตำรวจอะแลสกา 'มาเกียเลา' แจ้งความแก่ตำรวจในพื้นที่ว่า ภรรยาของเขาเสียชีวิตในช่วงกลางคืนของวันพฤหัสบดี (25 กรกฏาคม) ที่ผ่านมา ขณะที่ทั้งคู่พยายามข้ามแม่น้ำ'เทคลานิกา' ซึ่งมีระดับน้ำสูงและไหลเชี่ยวเนื่องจากเพิ่งมีฝนตกหนักก่อนหน้า 

'มาเกียเลา' ให้การกับตำรวจท้องที่ว่า ภรรยาของเขาถูกกระแสน้ำพัดจมหายไป และเมื่อเขาสามารถดึงร่างของเธอขึ้นมาจากกระแสน้ำที่ไหลไปเป็นระยะทาง 75 - 100 ฟุต หรือประมาณ 22 - 30 เมตร เธอก็เสียชีวิตไปแล้ว

ขณะนี้ ร่างของ 'ไมคามาวา' ถูกส่งไปชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

การเดินรอยตามที่สร้างประวัติศาสตร์(แห่งความตาย)ให้ซ้ำรอย

หนังสือและภาพยนตร์เรื่อง 'Into The Wild' ถูกสร้างขึ้นจากเรื่องจริงของ 'คริสโตเฟอร์ แม็คแคนด์เลสส์' ชายหนุ่มที่เติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะดี ก่อนตัดสินใจทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลังเพื่อออกเดินทางเพียงลำพัง

ในหนังสือของ 'จอน คราคาเอร์' ผู้เขียนเรื่อง 'Into The wild' จอน บรรยายว่า ในช่วงเดือนเมษายน ของปี 2535 'แม็คแคนด์เลสส์' เดินทางมาถึงส่วนยอดของเส้นทางเดินถนน 'แสตมเพด' โดยมีชายคนหนึ่งมาส่งเขา และไม่กี่วันหลังจากนั้น 'แม็คแคนด์เลสส์' ก็พบกับรถบัสร้างกลางป่าที่เขาตัดสินใจใช้เป็นที่พักแรมเป็นเวลาประมาณ 3 เดือน



'แม็คแคนด์เลสส์' ตัดสินใจเดือนทางกลับสู่ตัวเมืองอีกครั้ง แต่ด้วยกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวและสูงเกินไปของแม่น้ำ'เทคลานิกา' ทำให้เขาต้องเดินทางกลับไปยังรถบัสร้างอย่างเดิม และใช้ชีวิตที่นั่นอีกราว 1 เดือน ก่อนจะเสียชีวิตในเดือน สิงหาคม ปี 2535 

กระแสจากทั้งหนังสือที่ถูกตีพิมพ์ในปี 2539 และภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี 2550 ส่งผลให้มีผู้คนมากมายอยากจะลองไปเยือนรถบัสร้างกลางป่า ที่ 'แม็คแคนด์เลสส์' ใช้เป็นที่พักพิงจนวาระสุดท้าย ส่งผลให้ตำรวจในพื้นที่ต้องคอยมากู้ภัยนักเดินป่าหลายต่อหลายครั้ง

หนังสือและภาพยนตร์อาจสร้างแรงบันดาลใจและสร้างความผูกพันให้กับผู้ชมจนอยากจะออกไปสัมผัสประสบการณ์ที่ 'แม็คแคนด์เลสส์' ได้เผชิญ แต่คงไม่มีนักเดินทางคนไหนอยากมีจุดจบเช่นเดียวกับเขา

ขอบคุณภาพจาก Unsplash

อ้างอิง; CNN, The Guardian