เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2563 บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ได้เปิดโครงการอบรมหลักสูตรสร้างอาชีพด้านอาหารและเครื่องดื่ม 3 หลักสูตรผ่านโครงการสิงห์อาสา ที่ศูนย์นวัตกรรมด้านอาหาร Food Innovations Center จ.ปทุมธานี ซึ่งทั้ง 3 หลักสูตรนี้ประกอบไปด้วย หลักสูตรอาหาร หลักสูตรเครื่องดื่มและเบเกอรี และหลักสูตรอาหาร Delivery โดยเป็นการเปิดให้บุคคลทั่วไปที่สนใจเข้าร่วมอบรม ซึ่งงานนี้ได้ 4 เชฟดังร่วมเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ ไม่ว่าจะเป็น ‘เชฟบุ๊ค-บุญสมิทธิ์ พุกกะณะสุต’, ‘เชฟชุมพล แจ้งไพร’ เชฟรางวัลมิชลิน 2 ดาว จากร้าน R.HAAN, ‘เชฟป้อม-ธนรักษ์ ชูโต’ เชฟกระทะเหล็กอาหารจีน และ ‘เชฟปิ๊ก-สรมย์เวท ธีระพจน์’ ครีเอทีฟเชฟ จากร้าน EST. 33 

• บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ดึง 4 เชฟดัง ร่วมปั้น 3 หลักสูตรอบรมสร้างอาชีพด้านอาหารและเครื่องดื่ม หวังช่วยผู้เข้าร่วมอบรมนำไปต่อยอดสร้างรายได้

‘คุณปิติ ภิรมย์ภักดี’ กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด ในฐานะประธานเปิดโครงการเผยถึงความคาดหวังต่อการจัดอบรมกลุ่มทักษะวิชาชีพด้านอาหารครั้งนี้ โดยหวังว่าจะสามารถทำให้ผู้เข้าร่วมอบรมที่อาจเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือผู้ที่มีร้านอาหารอยู่แล้วสามารถนำไปต่อยอด ทำให้คุณภาพของร้านดีขึ้น หรือสามารถส่งขายออนไลน์ ไปจนถึงสามารถสร้างสรรค์เมนูแปลกใหม่ขึ้นมา และหวังว่าโครงการนี้จะช่วยสร้างรายได้ เสริมอาชีพให้ผู้เข้าอบรม 

“สิ่งที่เราพยายามจะพัฒนา ช่วยเหลือ สิงห์อาสาทั้งหมดใน 3 กิจกรรม 6 รุ่นนี้ ก็คืออย่างน้อยให้มีประสบการณ์นะครับ มีแนวคิด แล้วก็การพัฒนาในเรื่องของธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ หรือธุรกิจเสริมที่สามารถช่วยสร้างรายได้ในช่วงของโควิด-19 และดีไม่ดีหลายๆ คนอาจจะยึดเป็นอาชีพหลัก ก็คาดหวังไว้ว่าผู้ที่เข้าร่วมฝึกอบรมครั้งนี้อาจจะมีร้านอาหารเป็นของตัวเองในอนาคต เป็นร้านที่มีชื่อเสียงประจำท้องถิ่น หรือได้รังสรรค์เมนูใหม่ๆ ขึ้นมา ก็คงจะเป็นความภูมิใจของพวกเราสิงห์อาสา รวมไปถึงเชฟผู้สอนนะครับ” คุณปิติ กล่าว 

• คุณปิติ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด

ขณะเดียวกัน คุณปิติยังได้ให้คำแนะนำกับผู้ร่วมอบรมที่รู้สึกชื่นชอบการทำอาหาร และคิดว่าอาจทำเป็นอาชีพในวันข้างหน้า ว่านอกจากเรื่องแรงบันดาลใจและความรักในการทำอาหารแล้ว ยังจำเป็นต้องคำนึงถึงความซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภค การคำนวณเรื่องต้นทุน-รายรับรายจ่าย และการศึกษาสภาพตลาดด้วย 

• เชฟบุ๊ค-บุญสมิทธิ์ พุกกะณะสุต ทำหน้าที่วิทยากร อบรมหลักสูตร '10 เมนูยอดนิยม อร่อยง่ายๆ สำหรับร้านอาหารตามสั่งทั่วไป'

สำหรับการอบรมด้านอาหารและเครื่องดื่มทั้ง 3 หลักสูตรของโครงการสิงห์อาสาอบรมสร้างอาชีพ เปิดให้ผู้สนใจเข้าร่วมทั้งหมด 6 รุ่นด้วยกัน ประเดิมรุ่นแรกด้วยหลักสูตร ’10 เมนูยอดนิยม อร่อยง่ายๆ สำหรับร้านอาหารตามสั่งทั่วไป’ โดยได้เชฟบุ๊คเป็นวิทยากรและได้หยิบเอาเมนูยอดฮิตอย่างไก่ทอดซอสต๊อด ผัดไทย สุกี้เนื้อ และข้าวผัดรถไฟ มาฝึกอบรม ซึ่งแม้อาหารเหล่านี้จะดูเป็นเมนูที่ทำไม่ยาก แต่ก็ต้องอาศัยเคล็ดลับในการทำให้อาหารมีรสชาติอร่อยขึ้น นอกจากนี้เชฟยังได้แนะนำหลักการตลาด ‘4P’ ที่คนทำธุรกิจอาหารต้องให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลิตภัณฑ์ (Product) ราคา (Price) ช่องทางการจัดจำหน่าย (Place) และการส่งเสริมการขาย (Promotion)

• นันทวรรณ แซ่เตียว (ภาพบน) และ ชนิตา คงทน (ภาพล่าง) หนึ่งในผู้เข้าร่วมอบรมที่หวังนำสูตรอาหารที่ได้จากการอบรมไปต่อยอดสร้างรายได้ และต่อยอดธุรกิจร้านอาหารของครอบครัว

‘นันทวรรณ แซ่เตียว’ คือหนึ่งในผู้เข้าร่วมอบรม โดยบอกว่าปัจจุบันเป็นแม่บ้าน ไม่มีร้านอาหารเป็นของตัวเอง แต่สนใจเข้าร่วมอบรมหลักสูตรทำอาหาร 10 เมนูยอดนิยม เพราะคิดว่านอกจากจะได้เคล็ดลับไปทำรับประทานเองในครอบครัวแล้ว ก็ยังอาจนำไปต่อยอดทำขาย สร้างรายได้ในอนาคตอีกด้วย ขณะที่ ‘ชนิตา คงทน’ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เผยว่าเมนูที่สนใจเป็นพิเศษในการเข้าร่วมอบรมครั้งนี้คือผัดไทย เนื่องจากครอบครัวมีธุรกิจร้านขายผัดไทยจึงหวังว่าจะสามารถนำสูตรหรือเคล็ดลับที่ได้จากการอบรมไปต่อยอดธุรกิจของที่บ้าน 

• ลภัสพร พิมทะโนทัย พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 เข้าร่วมอบรมเพราะต้องการเรียนรู้และนำสูตรที่ได้ไปต่อยอดขายอาหารทางออนไลน์

ส่วน ‘ลภัสพร พิมทะโนทัย’ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบินแห่งหนึ่ง ซึ่งมาเข้าร่วมอบรมเผยว่า ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา คนทำงานในอุตสาหกรรมการบินได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโควิด-19 ตัวเองเพิ่งได้กลับมาเริ่มบินอีกครั้งไม่นานมานี้ แต่ตารางบินก็ยังน้อย ไม่เต็มทั้งเดือนเหมือนช่วงก่อนโรคระบาด จึงทำให้มีเวลาว่างมากขึ้นและคิดว่าน่าจะใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ด้วยการเข้าอบรมทำอาหาร เพื่อหวังต่อยอดสร้างรายได้เสริมต่อไปอีกด้วย 

“ก่อนหน้านี้เคยทำอาหารกินเอง ไม่เคยคิดว่าจะขายหรืออะไรเพิ่มเติม แต่ตอนนี้ก็มีแผนในอนาคตว่าจะทำขายออนไลน์ หรือในช่วงที่เรายังกลับไปทำงานไม่เต็มที่เท่าปกติ พอเห็นโครงการนี้ก็คิดว่าดี น่าสนใจ ทำให้เราสามารถใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ได้ความรู้เพิ่มเผื่อเอาไปต่อยอดทำอะไรได้เพิ่ม” ลภัสพรกล่าว ขณะเดียวกันก็บอกว่าเมนูที่สนใจเป็นพิเศษในการอบรมครั้งนี้คือผัดไทยและคิดว่าจะเข้าร่วมอบรมในหลักสูตรเบเกอรีเพิ่มอีกด้วย  

ทั้งนี้ โครงการสิงห์อาสาสร้างอาชีพถือเป็นโครงการระยะยาว โดยบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ได้ใช้ศักยภาพของบริษัทในเครือทั้งหมดร่วมกับเครือข่ายของสิงห์อาสาทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เช่น มหาวิทยาลัย สถาบันอาชีวศึกษา ศูนย์ภูมิปัญญาชาวบ้าน นำองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ในการสร้างอาชีพ เปิดคอร์สอบรมฟรีให้กับผู้ที่สนใจ เพื่อนำทักษะความรู้ที่ได้ไปต่อยอดสร้างอาชีพเลี้ยงดูครอบครัว โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มทักษะอาชีพ ได้แก่ การอบรมทักษะวิชาชีพทางด้านอาหารสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กที่เพิ่งเปิดการอบรมไปเมื่อวานนี้ รวมถึงการอบรมทักษะวิชาชีพทางด้านงานช่างและวิชาชีพทางด้านการเกษตร

ส่วนก่อนหน้านี้ก็ได้ดำเนินโครงการจ้างงานเร่งด่วนผ่านโครงการสิงห์อาสาใน 3 ภูมิภาค คือ โครงการสิงห์อาสาสู้ไฟป่าในเขตจังหวัดภาคเหนือ โครงการสิงห์อาสาสู้ภัยแล้งในเขตจังหวัดภาคอีสาน และ โครงการสิงห์อาสาสู้น้ำท่วมในเขตจังหวัดภาคกลาง ซึ่งได้มีการจ้างงานชาวบ้านในท้องถิ่นร่วมทำหน้าที่อาสาสมัครดูแลท้องถิ่นตน ช่วยสร้างรายได้บรรเทาความเดือดร้อนไปแล้วกว่า 3,000 ครัวเรือน และขณะนี้ยังคงดำเนินการอยู่ในหลายจังหวัด