ไม่พบผลการค้นหา
ซูเปอร์โพล เผยสำรวจภาคสนาม เรื่อง สุข ทุกข์ คนไทย พบร้อยละ 40.7 ทุกข์มากสุด เมื่อนึกถึงเงินในกระเป๋าตัวเอง ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ภายใต้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ขณะที่ ร้อยละ 42 เป็นทุกข์เมื่อเห็นนักการเมืองวิจารณ์ไทยให้โลกฟัง

เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง สุข ทุกข์ คนไทย กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,060 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ระหว่าง 15 - 20 ก.ค. พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา

เมื่อถามถึง ผลงานรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้คนไทย สุข หรือ ทุกข์ แค่ไหน เมื่อนึกถึงเงินในกระเป๋าของตัวเอง พบว่า จำนวนมากหรือร้อยละ 40.7 ทุกข์มากสุด ร้อยละ 19.1 ทุกข์ ร้อยละ32.1 กลาง ๆ มีเพียงร้อยละ 6.1 มีความสุข และเพียงร้อยละ 2.0 เท่านั้น ที่สุขมากสุดเมื่อนึกถึงเงินในกระเป๋าของตนเอง 

เมื่อจำแนกตาม พรรคการเมืองที่นิยมชอบฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 58.0 ของผู้นิยมพรรคฝ่ายค้าน ทุกข์มากสุด มากกว่า ร้อยละ 31.8 ของผู้นิยมพรรคฝ่ายรัฐบาลที่เป็นทุกข์มากสุด เมื่อนึกถึงเงินในกระเป๋าของตัวเอง

42% เป็นทุกข์ เมื่อนักการเมืองฟ้องโลก

ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อถามถึง สุข หรือ ทุกข์ เมื่อเห็นนักการเมืองเดินสายวิจารณ์การเมืองไทยให้โลกฟัง พบว่า จำนวนมากหรือร้อยละ 42.2 ทุกข์ ถึง ทุกข์มากสุด ในขณะที่ร้อยละ 51.3 กลาง ๆ และเพียงร้อยละ 6.5 สุข ถึง สุขมากสุดเมื่อเห็นนักการเมืองเดินสายวิจารณ์การเมืองไทยให้โลกฟัง 

ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 67.9 จะให้โอกาสรัฐบาลชุดใหม่ทำงานมากกว่า 2 ปีขึ้นไป ถ้ารัฐบาลแก้ปัญหาเดือดร้อนเงินในกระเป๋าของประชาชนได้ ในขณะที่ ร้อยละ 21.9 ให้โอกาส 1 – 2 ปี และร้อยละ 10.2 ให้โอกาสน้อยกว่า 1 ปี ตามลำดับ

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ความทุกข์เรื่องเงินในกระเป๋าผลัก ประชาชนออกห่างไปจากฐานสนับสนุนรัฐบาลประยุทธ์ เป็นทุกข์แรก

ทุกข์ที่สองคือ นักการเมืองเดินสายวิจารณ์การเมืองไทยให้ต่างชาติฟัง 

ผลโพลนี้จึงชี้ให้เห็น 2 โจทย์สำคัญ โจทย์แรก เป็นโจทย์เดียวที่ทำให้ฐานสนับสนุนของสาธารณชนหลุดจากรัฐบาล คือ ความทุกข์ของประชาชน เมื่อนึกถึงเงินในกระเป๋าของตัวเอง และถ้าพวกเขาผิดหวังจากนโยบายรัฐบาลชุดใหม่อีก จะทำให้อารมณ์ของสาธารณชนเหวี่ยงหนักมากจนน่าห่วงต่อเสถียรภาพของรัฐบาลและใครล่ะคืออัศวินขี่ม้าขาวคนต่อไป

ผศ.ดร.นพดล กล่าวต่อว่า ถ้าแก้โจทย์นี้ได้ ผลที่ตามมาคือ รัฐบาลจะสามารถดึงคนเข้า มาสนับสนุนรัฐบาลมากขึ้น โดยเห็นได้ชัดเจนจากโพลนี้ที่คนให้โอกาสรัฐบาลชุดใหม่อยู่นานกว่า 2 ปี ถ้าปลดทุกข์เงินในกระเป๋าของประชาชนได้จริง ในขณะที่อีกโจทย์หนึ่งเป็นเรื่องของ กลุ่มนักการเมืองผู้เดินสายวิจารณ์การเมืองไทยให้ชาวต่างชาตินอกประเทศฟังจนน่าห่วงว่าจะแบ่งแยกคนไทยในประเทศออกเป็นสองขั้วที่อาจเกิดความขัดแย้งรุนแรงบานปลายขึ้น จึงจำเป็นต้อง “ตัดไฟแต่ต้นลม”

“การเดินสายให้ชาวต่างชาติช่วยสร้างประชาธิปไตยของไทยจะไม่มีวันเป็นที่ยอมรับโดยคนไทย เพราะ ประชาธิปไตยของไทยต้องถูกสร้างขึ้นด้วยมือคนไทยและยึดโยงกับสถาบันหลัก สิ่งที่น่าห่วงสุด สำหรับนักการเมืองรุ่นใหม่ไม่ได้อยู่ที่ว่า พวกเขาไม่ได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่อยู่ที่ว่า พวกเขาไม่รู้ว่าอะไรถูก” ผศ.ดร.นพดล กล่าว