ภายหลังการเยือนไต้หวันของเพโลซีเมื่อช่วงต้นเดือน ส.ค. จีนแผ่นดินใหญ่ได้เริ่มการซ้อมรบครั้งใหญ่ของตนรอบเกาะไต้หวัน เพื่อเป็นการตอบโต้กับการเดินทางของประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เยือนไต้หวัน ซึ่งจีนอ้างว่าเป็นมณฑลหนึ่งของตน ทั้งนี้ จีนย้ำว่าไต้หวันจะต้องกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของจีนในอนาคต ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด ซึ่งหมายรวมถึงการใช้กำลัง
การเดินทางเยือนไต้หวันของเพโลซี ทำให้เธอกลายมาเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการสหรัฐฯ รองจากประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี ที่เดินทางเยือนไต้หวันเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี โดยระหว่างการแวะเยือนไต้หวันของเพโลซี กระทรวงการต่างประเทศจีนได้ออกแถลงการณ์เรียกว่าทริปของเพโลซีนั้น “คลุ้มคลั่ง ไร้ความรับผิดชอบ และไม่สมเหตุสมผล”
ระหว่างการหารือกับของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียนและจีน หวางอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนได้กล่าวว่า ไต้หวันจะ “กลับมายังอ้อมกอดของมาตุภูมิในท้ายที่สุด” อย่างไรก็ดี จีนยังคงเดินหน้าซ้อมรบรอบเกาะไต้หวัน โดยเหลือแต่เป็นเพียงการซ้อมรบขนาดเล็ก อย่างไรก็ดี เมื่อวานนี้ ไต้หวันมีรายงานว่าพบเครื่องบินรบจีน 22 ลำ และเรือรบอีก 4 ลำแล่นอยู่รอบเกาะไต้หวัน
ในช่วงหลังจากรายงานพบการซ้อมรบของจีนรอบเกาะตน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวันได้โพสต์รูปภาพการต้อนรับคณะผู้แทนรัฐสภาสหรัฐฯ ที่เดินทางมายังเกาะของตน โดยจากแถลงการณ์ของสถาบันอเมริกัน หรือสถานทูตโดยพฤตินัยของสหรัฐฯ ในไต้หวัน ระบุว่า การเดินทางเยือนในครั้งนี้ เป็นไปเพื่อการเปิดกว้างของการเดินทางเยือนภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
โดยคณะผู้แทนรัฐสภาสหรัฐฯ ประกอบไปด้วย 5 สมาชิกรัฐสภา ซึ่งมี เอ็ด มาร์คีย์ วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครต ซึ่งจะเข้าหารือกันกับเจ้าหน้าที่ของไต้หวัน ในประเด็นความมั่นคงระดับภูมิภาค การค้า และการลงทุน ทั้งนี้ คณะผู้แทนรัฐสภาสหรัฐฯ จะมีกำหนดการเข้าพบกับ ไช่อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวันในวันนี้ด้วย
สำนักประธานาธิบดีไต้หวันออกแถลงการณ์ ถึงการเดินทางเยือนไต้หวันจากทางคณะผู้แทนรัฐสภาสหรัฐฯ ว่าเป็นการส่งสัญญาณถึง “การสนับสนุนที่หนักแน่น” ของสหรัฐฯ ต่อไต้หวัน ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าสหรัฐฯ จะไม่ได้รับรองไต้หวันให้เป็นประเทศ และประกาศว่าตนยึดถือนโยบายจีนเดียว แต่สหรัฐฯ ยังคงรักษาความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับไต้หวัน รวมถึงการขายอาวุธเพื่อให้ไต้หวันใช้ในการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามด้วย
ที่มา: