วันที่ 26 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีปัญหาความขัดแย้งเรื่องปัญหากีฬาระหว่างไทยกับกัมพูชา จะไม่มีผลต่อการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ของคณะนักกีฬาไทย หรือไม่ ว่า เป็นธรรมดาในการเดินทางไปแข่งขันในต่างประเทศ แต่เป็นสิ่งที่เจ้าภาพต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้เสียชื่อ เพราะกีฬาเป็นแหล่งรวมของคนหลายประเทศ แค่เฉพาะคณะนักกีฬาไทยก็เป็น 10,000 คนแล้ว แต่ตนได้กำชับคนของเราแล้วว่า เราไปเพื่อสร้างสัมพันธ์อันดีกว่า ความรัก ความสามัคคี ซึ่งปัญหามันมีอยู่แล้วก็ไม่ควรที่จะเพิ่ม ไม่ควรทำให้ปัญหามันเพิ่มขึ้นทุกวัน ทั้งเรื่องงาน เรื่องนักกีฬา มันไม่ได้ ผมเห็นแล้วการเคลื่อนไหวของสื่อต่างๆ มากมาย ขอให้ไปดูก็แล้วกัน แต่เราต้องไม่ทำให้เป็นภาระให้ได้มากที่สุด เราก็อยู่ของเราอย่างสงบ การจะให้ทุกการแข่งขันกีฬา การจะให้ทุกแข่งขันการกีฬาได้ดีเหมือนกันมันยาก ซึ่งก็เป็นเรื่องของประเทศเขา ก็เชื่อว่าบางครั้งเขาก็ทำได้ ก็ให้เรามั่นใจตรงนี้ก่อน เพราะก็เป็นประเทศเพื่อนบ้านกันทั้งนั้นแหละ
เมื่อถามว่า จะมีการพูดคุยกับทางการกัมพูชาหรือไม่หลังจากที่ในโซเชียลมีการเคลื่อนไหวตอบโต้กันระหว่างประชาชน 2 ประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผมก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเขียน มันทำให้เป็นบ่อเกิดของความขัดแย้ง ก็ต้องไปดูว่าใช่หรือไม่ใช่อย่างไร อะไรที่เป็นเรื่องที่ต้องเห็นอกเห็นใจเขา อะไรที่ไม่ถูกไม่ต้อง ก็มาคุยกันซะ แล้วอย่างไรก็ทะเลาะกันไม่ได้อยู่แล้ว เพราะชายแดนมันติดกัน
เมื่อถามต่อว่า ที่มีการปรารภกับคณะนักกีฬา ว่าอย่าทำให้มีการเชื่อมโยงทางการเมืองเนื่องจากประเทศไทยกำลังเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่าไปยุ่งกับเขา อย่าไปวิพากษ์วิจารณ์ ไอ้นี่ก็บ้านเรา เรื่องของเรา คนละเรื่องอย่าเอามาพันกันทั้งหมด มันก็วุ่นไปหมดเข้าใจไหม ไม่ต้องไปเปรียบเทียบใครกับใครหรอก เรื่องของเราก็เรื่องของเรา ปัญหาเราก็เยอะพออยู่แล้ว อย่าไปยุ่งกับปัญหาเขาอีก เขาก็มีปัญหาบ้างล่ะทุกคน
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านั้น นายกฯ ได้ให้โอวาทคณะเจ้าหน้าที่และนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32