วันนี้ (30 กรกฎาคม 2568) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมกันแถลงผลงานการปราบปรามยาเสพติดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งถือเป็นภารกิจเร่งด่วนของรัฐบาลภายใต้การนำของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ได้ประกาศต่อรัฐสภาไว้อย่างชัดเจนว่า "ปัญหายาเสพติดคือภัยร้ายที่ต้องเร่งแก้ไขอย่างเด็ดขาด ครบวงจร ทั้งการผลิต การลำเลียง และการค้า"
รัฐบาลได้สั่งการขับเคลื่อน "แผนปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด" ภายใต้ชื่อ "NO Drugs NO Dealers ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด" อย่างเป็นรูปธรรมทั่วประเทศ โดยแผนนี้เป็นส่วนสำคัญที่รัฐบาลได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง และภาคประชาชน ร่วมบูรณาการปฏิบัติการอย่างเข้มข้น เพื่อยุติปัญหายาเสพติดในทุกระดับ
ผลการดำเนินงานของตำรวจในรอบเกือบ 10 เดือนที่ผ่านมา (1 ตุลาคม 2567 – 30 กรกฎาคม 2568) แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จที่จับต้องได้ ดังนี้:
* คดีและผู้ต้องหา: ดำเนินคดี 210,780 คดี จับผู้ต้องหา 211,529 คน และจับตามหมายจับ 5,411 ราย
* คดีสมคบและฟอกเงิน: ดำเนินคดีข้อหาสมคบและสนับสนุน 3,122 คดี รวมถึงข้อหาฟอกเงินอีก 235 คดี
* ของกลางที่ตรวจยึดได้ (จำนวนมหาศาล):
* ยาบ้า: 851.66 ล้านเม็ด
* ไอซ์: 41,137 กิโลกรัม
* เฮโรอีน: 1,209 กิโลกรัม
* คีตามีน: 5,512 กิโลกรัม
* ยาอี: 286,726 เม็ด
* การยึดทรัพย์: สามารถยึดและอายัดทรัพย์สินจากขบวนการค้ายาเสพติดได้ถึง 12,417 ล้านบาท
[ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง]
นอกจากนี้ ตำรวจยังได้เปิด "ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติด" อย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2567 ถึงกรกฎาคม 2568 รวมทั้งสิ้น 8 ครั้ง ซึ่งผลจากการปฏิบัติการนี้สามารถปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายได้ 9,252 เครือข่าย
* ตรวจค้นเป้าหมาย 33,242 จุด
* ศาลอนุมัติหมายจับ 2,316 หมาย
* ดำเนินคดี 61,420 คดี
* จับกุมผู้ต้องหา 62,616 คน
* จับตามหมายจับได้ 3,346 ราย
* ของกลางที่ตรวจยึดเพิ่มเติม:
* อาวุธปืน: 2,849 กระบอก
* ยาบ้า: 329,773,549 เม็ด
* เฮโรอีน: 1,432.53 กิโลกรัม
* คีตามีน: 1,926.77 กิโลกรัม
* ไอซ์: 27,974.43 กิโลกรัม
* ยาอี: 108,259 เม็ด
* มูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้: 4,580 ล้านบาท
ความสำเร็จจากการบูรณาการทุกภาคส่วน
ความสำเร็จเหล่านี้เป็นผลมาจากการขับเคลื่อนนโยบายระดับสูงแบบบูรณาการ โดยได้รับความร่วมมือจาก:
* พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม: เน้นย้ำการปราบปรามแหล่งพักยาในภาคกลางก่อนส่งเข้าสู่เมืองหลวง
* พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ: กำชับทุกหน่วยเร่งด่วนทำลายเครือข่ายตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
* พลตำรวจเอก ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศอ.ปส.ตร.)
* พลตำรวจเอก ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และประธานอนุกรรมการป้องกันปราบปรามการพักคอยยาเสพติดในพื้นที่ตอนในและสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้
* พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรองผู้อำนวยการ ศอ.ปส.ตร.
* กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) นำโดย พลตำรวจโท สันติ ชัยนิรามัย ผู้บัญชาการ บช.ปส. พร้อมรองผู้บัญชาการ และผู้บังคับการในสังกัด ที่ลงพื้นที่จริง สืบสวน สกัดจับ ขยายผล จนถึงยึดทรัพย์
โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 1-30 กรกฎาคม 2568 บช.ปส. ได้บูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร, หน่วยบัญชาการป้องกันชายแดนทางบกและทางน้ำ 35 (นบ.ยส.35), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.), ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร, กรมการปกครอง และหน่วยข่าวกรองทางทหาร ในการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญได้ถึง 19 คดี ผู้ต้องหา 45 คน พร้อมของกลางยาบ้า 46.88 ล้านเม็ด ไอซ์ 1,408 กิโลกรัม และคีตามีน 150 กิโลกรัม
การปราบปรามยาเสพติดถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยให้กับสังคมไทย แล้วคุณคิดว่ามาตรการใดที่จะช่วยลดปัญหายาเสพติดได้อย่างยั่งยืนที่สุด