องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ระบุว่า ภูมิภาคแอฟริกาเป็นภูมิภาคที่ปลอดจากเชื้อไวรัสโปลิโอ หลังมีการรณรงค์เรื่องการฉีดวัคซีนโปลิโอมานานหลายสิบปีในพื้นที่ดังกล่าว
แถลงการณ์ของ WHO ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2539 การให้วัคซีนโปลิโอแก่เด็กในภูมิภาคแอฟริกาสามารถป้องกันการเป็นอัมพาตตลอดชีวิของเด็กได้กว่า 1.8 ล้านคน และสามารถช่วยชีวิตเด็กได้อีกประมาณ 180,000 คนจากโรคโปลิโอ
ผู้ติดเชื้อรายสุดท้ายในภูมิภาคแอฟริกาที่ติดเชื้อไวรัสโปลิโอถูกพบเมื่อปี 2016 ในประเทศไนจีเรีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีการต่อต้านการฉีดวัคซีนอย่างรุนแรงจากกลุ่มจีฮัด โดยอ้างว่าเป็นการขัดกับหลักศาสนาอิสลามในเรื่องของการทำหมัน
ปัจจุบันยังคงมีเด็กในภูมิภาคแอฟริกาที่ยังไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนได้อีก 30,000 คนเท่านั้น แต่ทั้งนี้กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ถือว่าเป็นตัวเลขที่น้อยเกินกว่าจะประกาศให้แอฟริกาเป็นเขตระบาดของเชื้อไวรัสโปลิโอ
หลังจากนี้ทางองค์กรนานาชาติจะเพิ่มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโปลิโอจากผู้ป่วยในปากีสถานและอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็น 2 ประเทศที่ยังคงพบผู้ป่วยโปลิโอ เพื่อไม่ให้นำเชื้อไวรัสเข้ามาระบาดในภูมิภาคอีกและจะยังคงดำเนินการฉีดวัคซีนให้เด็กในแอฟริกาต่อไป
เชื้อไวรัสโปลิโอเป็นเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายด้วยการติดต่อจากคนสู่คน โดยเฉพาะการแพร่ระบาดผ่านน้ำ ซึ่งเชื้อไวรัสดังกล่าวส่งผลให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงและทำลายระบบประสาท
การคิดค้นวัคซีนโปลิโอเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1950 หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของโรคโปลิโอไปทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียและแอฟริกา
ในปี 2531 องค์การอนามัยโลก ยูนิเซฟและสโมสรโรตารี ร่วมมือรณรงค์ในการกำจักโรคโปลิโอทั่วโลก ซึ่งในปี 2539 ทั่วโลกมีผู้ป่วยโปลิโอถึง 350,000 ราย ซึ่งในทวีปแอฟริกาเพียงทวีปเดียวมีผู้ป่วยโรคโปลิโอมากกว่า 70,000 ราย ปัจจุบันประชากรในภูมิภาคแอฟริกา 95% มีภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสโปลิโอแล้ว หลังจากที่มีความร่วมมือในการให้วัคซีนแก่เด็กในภูมิภาคดังกล่าว