เยาวชน นักศึกษา และประชาชน นำโดย นายอานนท์ นำภา ทนายความศูนย์สิทธิมนุษยชนและแกนนํากลุ่มพลเมืองโต้กลับ พร้อมด้วยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ สนท., นายภาณุพงศ์ จาดนอก จากกลุ่มเยาวชนปลดแอก และนายปิยรัฐ จงเทพ แกนนำ 'วิ่งไล่ลุง' ภาคอีสาน จัดปราศรัยและประท้วงที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก หรือ บก.ทบ. เพื่อแสดงออกในฐานะประชาชนที่ไม่พอใจการกล่าวหาประชาชนของ พ.อ.หญิง นุสรา วรภัทราทร อดีตรองโฆษกกองทัพบก
สืบเนื่องจากกรณี พ.อ.หญิงนุสรา แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว กล่าวถึงการชุมนุมที่นำโดยเยาวชนปลดแอกว่าเป็น 'ม็อบมุ้งมิ้ง' ทั้งยังหวังให้มี 'เคสบูชายัญ' จะได้ออกมาเรียกร้องกันต่อ พร้อมแนะนำกลุ่มเยาวชนให้เอาเวลาไปทำมาหากิน ท่องเที่ยว ขายของออนไลน์ และระบุอีกด้วยว่า “ถ้าไม่งอมืองอเท้า ไม่มีวันอดตายหรอก” และมีผู้เข้าไปแสดงความเห็นต่อท้ายเป็นจำนวนมาก ก่อนจะลบโพสต์ทิ้งไปในเวลาต่อมา
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ได้แจ้งข้อกฎหมายว่าการจัดกิจกรรมอาจสุ่มเสี่ยงที่จะผิดตามมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่าด้วย การรวมกลุ่มที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ COVID-19 รวมถึงกีดขวางการจราจรตามกฎหมายจราจรด้วย แต่ไม่ขัดขวางการจัดกิจกรรมแต่อย่่างใด
เชื่อม็อบผุดหลายพื้นที่
นายอานนท์ กล่าวว่า จากนี้จะมีการชุมนุมกระจายหลายจุดทั่วประเทศ มีหลายมหาวิทยาลัยประสานเข้ามาที่กลุ่มเคลื่อนไหวที่ กทม. โดยไม่มีแกนนำหลัก แต่จะเป็นการลุกขึ้นมาแสดงออกของประชาชนแต่ละพื้นที่ เพื่อสะท้อนปัญหาไม่ยอมรับรัฐบาลปัจจุบันเป็นจุดร่วมสำคัญ ซึ่งถือเป็นความสวยงามในระบอบประชาธิปไตย
พร้อมกับย้ำว่าการชุมนุมเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถใช้กฎหมายที่ศักดิ์ต่ำกว่ารัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายจราจรหรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาเอาผิดผู้แสดงออกโดยสุจริตได้ นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ยุบสภา แก้รัฐธรรมนูญ เพื่อระบบการเมืองเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น
ไม่ใช่ 'ม็อบมุ้งมิ้ง' ที่ไร้แก่นสาร
นายภาณุพงศ์ กล่าวถึงการบริหารงานที่ผิดพลาดและล้มเหลวของรัฐบาล และยืนยันว่าการชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยที่ผ่านมาของทางกลุ่มเยาวชนปลดแอก โดนคุกคามโดยบุคคลที่แต่งกายคล้ายทหาร ทั้งชุดและทรงผมแบบ 'หัวเกรียน' ซึ่งการลุกขึ้นมาชุมนุม ไม่ใช่ 'ม็อบมุ้งมิ้ง' ที่ไร้แก่นสาร แต่เพื่อต้องการกำหนดอนาคตตัวเองของเยาวชนนักศึกษา ไม่ใช่ให้ผู้มีอำนาจกำหนดเส้นทางชีวิตและทิศทางของประเทศ
ส่วนกรณีอดีตรองโฆษกหญิงกองทัพบก ออกมาโพสต์ Facebook ส่วนตัวนั้น เข้าใจว่าอาจจะได้รับคำสั่งมา ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจบังคับบัญชาสั่งการ ให้พิจารณาข้อเรียกร้องของทางกลุ่ม และแยกแยะระหว่างสิทธิเสรีภาพของประชาชนกับการใช้อำนาจด้วย พร้อมย้ำถึงผลกระทบจากความผิดพลาดของรัฐบาลที่ทำให้ชาวระยอง ต้องเสี่ยงกับโรคโควิด-19 อีกรอบ และเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจปากท้องที่หนักหน่วงอยู่เเล้ว ซึ่งเงินเยียวยาจากรัฐบาลไม่เพียงพอ
ยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่
นายพริษฐ์ กล่าวถึงความจำเป็นที่ประชาชนจะออกมาแสดงออกเพื่อสะท้อนปัญหา โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ และเรียกร้องความรับผิดชอบจากรัฐบาล เพราะที่ผ่านมาไม่สามารถแก้ปัญหาและตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ ดังนั้น จึงควรยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่ ไม่ใช่ให้นายกรัฐมนตรีลาออกเท่านั้น เพราะมีกติกาและกลไกต่างๆ ที่เอื้อให้มาครองอำนาจใหม่ได้ ทั้งยังเป็นกลไกที่ใช้กำจัดคู่แข่งทางการเมืองตลอดมาด้วย
ขณะที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในปัจจุบัน มีไว้เพื่อควบคุมประชาชน ไม่ใช่ควบคุมโรคโควิด-19 ตามที่ผู้มีอำนาจกล่าวอ้าง ดังนั้น ประชาชนจึงเรียกร้องให้หยุดใช้อำนาจรัฐคุกคามประชาชนด้วย
อ่านเพิ่มเติม