เว็บไซต์ Financial Times รายงานว่า รัฐบาลของสหรัฐอเมริกา ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งแบนแอปพลิเคชันยอดนิยมที่มีผู้ใช้งานในสหรัฐฯมากถึง 100 ล้านบัญชีอย่าง TikTok อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อย่าง WeChat จากจีนก็จะถูกแบนด้วยเช่นกัน กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯได้ออกมาแถลงยืนยันเมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ทั้ง 2 แอปฯ จะถูกลบออกจากทุก App Stores อย่างเป็นทางการในสหรัฐฯ มีผลเที่ยงคืนของวันที่ 20 ก.ย.นี้ แต่ประชาชนในสหรัฐฯจะยังคงใช้งาน TikTok ได้ต่อไปจนถึงวันที่ 12 พ.ย.
วิลเบอร์ รอส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า การออกคำสั่งแบนแอปพลิเคชันดังกล่าวในสหรัฐฯคือความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯในการต่อสู้กับการกระทำอันเลวร้ายของรัฐบาลจีน ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนตัวปริมาณมหาศาลของชาวอเมริกัน อย่างไรก็ตามสหรัฐฯ กลับลำไม่สั่งให้ทั้ง Apple และ Google ลบแอปพลิเคชัน TikTok และ WeChat เวอร์ชันจีนออกจาก Apple App Store และ Google Play Store ในประเทศจีนแต่อย่างใด
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลสหรัฐฯ มีความกังวลว่า แอปพลิเคชัน Tiktok และ WeChat จะเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ เพราะเป็นเครื่องมือที่จีนอาจใช้เก็บข้อมูลส่วนตัวปริมาณมหาศาลของชาวอเมริกัน จึงได้ลงนามคำสั่งพิเศษประธานาธิบดีเมื่อเดือนที่ผ่านมา 2 ฉบับ ระบุว่าบริษัท BiteDance ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ TikTok ต้องขายกิจการในสหรัฐฯให้กับบริษัทอเมริกัน และบริษัทอเมริกันที่มีความเกี่ยวข้องกับทั้ง 2 แอปพลิเคชันจะถูกแบนทันทีหากยังคงมีการร่วมธุรกิจกับ 2 แอปพลิเคชันนี้ต่อหลังวันที่ 20 ก.ย.
หลังจากนั้น ทรัมป์ ได้ลงนามคำสั่งพิเศษประธานาธิบดีฉบับที่ 3 ให้เวลาบริษัท BiteDance ไปจนถึงวันที่ 12 พ.ย.ในการเลิกกิจการในสหรัฐฯ นั่นจึงทำให้ ผู้คนในสหรัฐฯ จะยังคงใช้ TikTok ได้จนถึง 12 พ.ย. แต่หลังจาก 20 ก.ย.ผู้ใช้งานจะไม่สามารถอัปเดตอะไรได้อีกเลย และประสิทธิภาพในการใช้งานจะค่อยๆ ลดลง ซึ่งหากบริษัทแม่ของ TikTok สามารถยื่นข้อเสนอที่เป็นที่น่าพอใจให้กับทางรัฐบาลสหรัฐฯได้ สถานการณ์ก็อาจจะดีขึ้น
BiteDance ต่อต้านการกระทำของรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างยิ่ง เพราะคำสั่งพิเศษประธานาธิบดีนั้นไม่มีความเป็นธรรม โดยระบุว่าการกระทำดังกล่าวจะสร้างผลกระทบให้กับประชาชนในสหรัฐฯ เอง เพราะปัจจุบันผู้คนจำนวนมากสร้างรายได้มากมายจากแพลตฟอร์มนี้ ขณะเดียวกันความสุขและความบันเทิงของคนในสหรัฐฯ ส่วนหนึ่งก็จะหายไป เพราะที่ผ่านมาพวกเขามี TikTok เป็นสื่อกลางในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และมอบความสุขให้แก่กัน
อย่างไรก็ตาม WeChat ไม่ได้รับโอกาสในการขยายเวลาเช่นเดียวกับ TikTok วิลเบอร์ รอส ให้สัมภาษณ์ใน Fox Business ว่า WeChat จะถูกแบนการเข้าถึงในทันที ซึ่งเมื่อได้ยินดังนั้น บริษัทแม่ของ WeChat อย่าง Tencent ก็ได้เปิดเผยว่าทางบริษัทจะเดินหน้าเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯต่อไป เพื่อหาทางออกที่มีประสิทธิภาพในระยะยาว