ไม่พบผลการค้นหา
ไทยรักษาชาติ ยืนยันสู้คดียุบพรรคในระบบเท่านั้น ไม่พูดนอกศาลเด็ดขาด "ปรีชาพล" กำชับผู้สมัครไม่ให้พูดเรื่องยุบพรรคช่วงหาเสียง หวั่นเหตุเเทรกซ้อน เตรียมคุย "จาตุรนต์-ณัฐวุฒิ" เดินหน้าหาเสียงในพื้นที่

ความเคลื่อนไหวที่พรรคไทยรักษาชาติ ผู้บริหาร, แกนนำและผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค รวมถึงคณะทำงานด้านต่างๆ เดินทางเข้าที่ทำการพรรคตามปกติ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ให้พิจารณาวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งกำหนดให้พรรคยื่นชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายในวันที่ 21 ก.พ. ตามกำหนด 7 วัน นับตั้งแต่วันที่พรรคได้รับสำเนาคำร้องตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา

ร้อยโทปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวถึง การต่อสู้คดียุบพรรคว่า จะดำเนินการในระบบหรือในชั้นศาลเท่านั้น ไม่นำเรื่องนี้มาวิจารณ์หรือแสดงความเห็นนอกศาล ตามที่ได้ย้ำไว้แล้วอย่างเด็ดขาด โดยระหว่างนี้คณะทำงานกฎหมายของพรรค กำลังศึกษารายละเอียดและจะนำเข้าหารือกับคณะกรรมการบริหาร เพื่อหาแนวทางการต่อสู้คดีและชี้แจงข้อกล่าวหาต่อไป รวมถึงระยะเวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดให้ยื่นแก้ข้อกล่าวหาใน 7 วันว่าเพียงพอหรือไม่ด้วย และได้กำชับให้ผู้สมัครในแต่ละพื้นที่ซึ่งยังหาเสียงตามปกติ ไม่ให้พูดถึงหรือใช้กรณีที่เกี่ยวข้องกับการยุบพรรคในการปราศรัยหรือสื่อสารกับประชาชน เพราะหวั่นเหตุการณ์แทรกซ้อนทางคดี ที่อาจเกิดขึ้นได้

สำหรับกิจกรรมทางการเมืองในเขตเลือกตั้งต่างๆ ร้อยโทปรีชาพล เตรียมจะปรึกษากับนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคและนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงของพรรค เพื่อกำหนดแนวทางและกิจกรรมที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ เพื่อเดินหน้าหาเสียงสู่การเลือกตั้ง 

ส่วนนายจาตุรนต์แ��ะนายณัฐวุฒิ จะลงพื้นที่เพื่อช่วยผู้สมัครหาเสียงหรือไม่ ต้องรอการพูดคุยกับทั้งสองคนก่อน อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นทั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์, คณะกรรมการรณรงค์หาเสียง, และคณะกรรมการบริหารพรรค ได้ประกาศยุติการจัดกิจกรรมและเวทีปราศรัยขนาดใหญ่แล้ว เพื่อทุ่มกำลังความสามารถในการต่อสู้คดีและป้องกันเหตุแทรกซ้อนต่างๆ รวมถึงเป็นการยืนยันเจตนาบริสุทธิ์ และเคารพในกระบวนการยุติธรรม

ขณะที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ เปิดเผยว่า หลังจาก กกต.รับรองผู้สมัครของพรรค นายเรืองไกร ถือเป็นหนึ่งในผู้มีส่วนได้เสียด้วย จึงคิดว่าจากนี้จะต้องเข้าไปอยู่ในคณะทำงานด้านกฎหมายเพื่อต่อสู้คดีให้พรรค พร้อมตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการอิงกฎหมายที่เกี่ยวข้องของ กกต. และ กรอบเวลาในการยื่นแก้ข้อกล่าวหา ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับศาลรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดว่าให้ผู้ถูกร้องแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วันหรือแล้วแต่ศาลจะเห็นควร ซึ่งนายเรืองไกร มองว่า ตามปกติศาลจะขยายเวลาออกไป เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม

แต่กรณีจะมีการยุบพรรคไทยรักษาชาติ ศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดเวลาให้ยื่นแก้ข้อกล่าวหาภายใน 7 วัน ซึ่งหากคณะทำงานกฎหมายของพรรคเห็นว่ามีเวลาไม่เพียงพอในการรวบรวมพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา อาจต้องขอความเมตตาจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ให้ขยายเวลาออกไปอีกตามความเหมาะสม 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง