พล.อ.ไพชยนต์ ค้าทันเจริญ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานครและร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา เปิดเผยว่า กมธ. วิสามัญได้ประชุมเห็นชอบการแก้ไขกฏหมายทั้งสองฉบับเรื่องวาระการดำรงตำแหน่ง โดยเห็นควรเว้นวรรควาระการตำรงตำแหน่งของผู้ว่าราชการ กทม. และนายกเมืองพัทยาทุก ๆ แปดปีหรือสองวาระ

โดย คณะกมธ. เห็นว่าผู้ดำรงตำแหน่งทั้งสองเมื่ออยู่ในตำแหน่งครบสองวาระแล้ว ควรเว้นวรรคเป็นเวลาอย่างน้อยสี่ปี เพื่อเว้นช่วงให้ผู้อื่นเข้ามาบริหารผ่านการลงสมัครรับเลือกตั้งต่อไป พล.อ. ไพชยนต์ กล่าวต่อว่า กทม. และพัทยาเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ และมีงบประมาณบริหาร เช่น งบประมาณในปี 2562 ของกทม. เป็นจำนวนกว่าหนึ่งแสนล้านบาท ในจำนวนนี้ เป็นงบของกทม. เองประมาณแปดหมื่นล้านบาท และที่เหลือได้รับการสนับสนุนจากรัฐจึงเห็นควรให้ผู้มีความรู้ความสามารถ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีธรรมาภิบาลและมีความเป็นธรรมสับเปลี่ยนเข้ามาบริหาร

สำหรับวาระอื่นที่ กมธ. เห็นควรเสนอให้สนช. พิจารณา รวมถึงจำนวนสมาชิกสภากทม. จากเดิมคิดตามจำนวนประชากร 150,000 คน ต่อหนึ่งผู้ได้รับการเลือกตั้งต่อเขตการเลือกตั้ง เห็นควรให้เปลี่ยนเป็นหนึ่งเขตเป็นหนึ่งเขตการเลือกตั้งและหนึ่งผู้ได้รับการเลือกตั้ง เท่ากับว่ากทม. ต้องมีสมาชิกสภา กทม. 50 คนต่อ 50 เขต เขตใดมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นมาไม่ต่ำกว่า 75,000 คนและไม่เกิน 150,000 คนให้เพิ่มผู้ลงรับสมัครได้อีกหนึ่งคน

คณะกมธ. พิจารณาร่างกฏหมาย ยังเห็นควรให้กทม. มีอำนาจในการอำนวยความสะดวกและจัดการจราจร จากเดิมที่มีอำนาจเกี่ยวข้องกับด้านวิศวกรรมจราจรเท่านั้น นอกจากนั้น ยังเห็นควรเพิ่มอายุขั้นต่ำของผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเมืองพัทยาจาก 30 ปี เป็น 35 ปี ให้เท่ากับอายุขั้นต่ำของผู้สมัครเลือกตั้งตำแหน่งผู้ว่ากทม. ทั้งนี้สำหรับกฏหมายทั้งสองฉบับ กมธ. จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ภายในสัปดาห์หน้า