การเมือง
'ปิยบุตร' เผย อนค.ถูกฟ้อง 20 กว่าคดี - ชี้ ส.ส.ให้คู่สมรสถือหุ้นสื่อกลับไม่ถูกตรวจสอบ
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า วันนี้ (28 ต.ค.) ตนและนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่เดินทางเข้าพบพนักงานอัยการ กรณีของนายธนาธร ไปพบเพื่อฟังคำสั่งในคดีที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 จากกรณีจัดรายการผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์วิจารณ์พลังดูดของรัฐบาล คสช. ซึ่งคดีดังกล่าวพนักงานอัยการได้มีคำสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้พิจารณาทำความเห็นกลับมา ว่าจะยืนยันฟ้องต่อหรือไม่ หากยืนยันสั่งฟ้องตามสำนวน ก็จะต้องให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาต่อไป
ส่วนตนไปพบพนักงานอัยการ ในคดีที่กองบังคับการปราบการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ปอท.) ได้ยื่นฟ้องกรณีการแถลงข่าวถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องการยุบพรรคไทยรักษาชาติ ข้อกล่าวหาหนึ่งที่มีต่อตน คือ ความผิดฐานดูหมิ่นศาล ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198 จากการพบพนักงานอัยการวันนี้ ในส่วนคดีของนายธนาธร ล่าสุดปรากฏว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคงไม่ทำความเห็นกลับมา โดยพนักงานอัยการจะนัดธนาธรมาพบอีกครั้งในวันที่ 2 ธ.ค. 2562 ซึ่งหากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความเห็นด้วยกับอัยการก็จบ หากมีความเห็นยืนยันสั่งฟ้อง ก็จะเป็นการพิจารณาของพนักงานอัยการต่อไป
ส่วนคดีของตน วันนี้เป็นวันที่ ปอท. ต้องนำส่งตัวให้สำนักงานอัยการสูงสุด โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความเห็นฟ้องเพียงข้อหาดูหมิ่นศาลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198 แต่ไม่ฟ้องในข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งพนักงานอัยการจะขอนัดเพื่อฟังคำสั่งในวันที่ 28 พ.ย. 2562 โดยทางทีมทนายความจะยื่นร้องขอความเป็นธรรมในการสอบพยานเพิ่มเติม เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่ได้มีการสอบพยานเพิ่มเติมในส่วนของผู้ถูกร้องตามที่ได้ขอไปตั้งแต่ต้น
สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบัน อยากเรียนให้ทราบว่าคดีต่างๆ ที่พรรคอนาคตใหม่โดนฟ้องรวมๆ แล้ว 20 กว่าเรื่องในขณะนี้ ทุกคนคงวิเคราะห์กันได้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ทั้งที่เรายังไม่ได้มีอำนาจบริหารราชการแผ่นดินเลย แต่กลับมีความคิดความเชื่อเต็มไปหมดว่าจะถูกยุบพรรค ตัดสิทธิ จำคุก ส่วนตัวอยากถามกลับไปตรงๆ ว่าทุกคนรู้สึกว่าพรรคอนาคตใหม่ทำผิดกฎหมายจริงๆ หรือที่เราถูกกระทำทั้งหมดนี้ เป็นเพียงเพราะเรามีแนวทางที่ทำให้ผู้มีอำนาจไม่สบายใจ
นายปิยบุตร ระบุว่า กรณีหุ้นสื่อที่นายธนาธรโดนอยู่ในตอนนี้ ท้ายที่สุดแล้วรัฐธรรมนูญ มาตรานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อมิต้องการให้ ส.ส. หรือรัฐมนตรีมีอิทธิพลในการครอบงำสื่อ นี่คือเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นต้องดูว่ากิจการที่ถือหุ้นนั้นเป็นสื่อหรือไม่ และการถือหุ้นนั้นมีมากน้อยเพียงใดถึงขั้นมีอิทธิพลครอบงำสื่อ โดยบริษัท วี-ลัค มีเดีย ไม่ได้เป็นสื่อมวลชน เป็นเพียงบริษัทที่รับจ้างผลิตรูปเล่ม ไม่ได้กำหนดเนื้อหา และก็ปิดกิจการเรียบร้อย อีกทั้งนายธนาธรก็ได้โอนหุ้นไปหมดตั้งแต่ 8 ม.ค. 2562 แต่นายธนาธรกลับถูกเล่นงานตามมาตรานี้
เมื่อเปรียบเทียบกับกรณี ส.ส. คนหนึ่ง ซึ่งไม่ได้ถือหุ้นสื่อเลย แต่มีคู่สมรสถือหุ้นสื่อ เป็นเจ้าของสื่อโดยตรง มีอิทธิพลครอบงำสื่อ นำสื่อมาใช้เป็นเครื่องมือโจมตีฝ่ายตรงข้าม แต่ ส.ส. คนนี้กลับไม่โดนอะไรเลย ตกลงแล้วรัฐธรรมนูญมาตรานี้ ต้องการจัดการนักการเมืองที่ครอบงำสื่อจริงๆ หรือกลายเป็นเครื่องมือที่ใช้กลั่นแกล้งกันแน่ หรืออย่างคดีของผมเอง หลักฐานที่ พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหารบก และผู้ชำนาญการสำนักงาน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ใช้ในการร้องทุกข์กล่าวโทษก็อ่อนมาก ถอดเทปมาแบบผิดๆ ถูกๆ ไม่ตรงกับที่ผมพูด ผมสอนกฎหมายมา วิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญมาทั้งชีวิตไม่เคยโดนคดีอะไรเลย แต่พอมาเป็นนักการเมืองกลับโดนคดีทันที" นายปิยบุตร ระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
