9 พ.ค 2566 คาราวานก้าวไกลเดินทางต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 มีการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ใน 2 จังหวัดพร้อมกัน ได้แก่ คาราวานสายเลือดอีสาน ที่ จ.นครราชสีมา และคาราวานสายมาเหนือ ที่ จ.พิษณุโลก โดยทั้ง 2 เวที มีประชาชนร่วมฟังปราศรัยจำนวนมาก สำหรับคาราวานสายเลือดอีสาน นำโดยแกนนำและผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ประกอบด้วย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, สุรชัย ศรีสารคาม, พล.ท.พงศกร รอดชมภู, อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล, ทวีศักดิ์ ทักษิณ และ คำพอง เทพาคำ ได้ร่วมกันเดินสายเข้าสู่จังหวัดนครราชสีมาแล้วในวันนี้ ก่อนที่จะกระจายขบวนกันออกหาเสียงตามพื้นที่ต่างๆ ทั้งใน อ.บัวใหญ่, อ.หนองบุญมาก, อ.โชคชัย, และ อ.เมืองนครราชสีมา
หลังจากนั้น ทั้งหมดได้มาร่วมกันเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในช่วงเย็น ที่ลาดจอดรถตลาดเซฟวัน ในเมืองนครราชสีมา พร้อมแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล จ.นครราชสีมา ทั้ง 16 เขต ในช่วงหนึ่งของการปราศรัย ธนาธรระบุว่าตลอดการรณรงค์ของพรรคก้าวไกลนั้น เราได้ทำให้ทุกคนตระหนักแล้ว ถึงปัญหาที่เกิดจากขุนทหาร นายทุนผูกขาด นักการเมืองไร้อุดมการณ์ ที่ปกครองบ้านเมืองมาก่อนหน้านี้
การรัฐประหารที่ผ่านมาทุกคนย่อมเห็นได้ชัดแล้ว ว่าตอนที่ทำ ก็ทำไปโดยอ้างว่านักการเมืองเลว นักการเมืองทุจริต แต่สุดท้ายพอจะสืบทอดอำนาจก็ตระหนักได้ว่าหนีการเลือกตั้งไม่ได้ พากันเอานักการเมืองที่ด่าว่าเลววันก่อนมาอยู่พรรคตัวเอง โดยนักการเมืองพวกนี้ก็เหลือเชื่อ ก่อนนี้ขึ้นเวทีเสื้อแดงสู้เพื่อประชาธิปไตยอยู่ มาอีกปีไปอยู่พรรคการเมืองสืบทอดอำนาจเสียแล้ว
ธนาธรกล่าวต่อไปว่า ดังนั้น 14 พ.ค. นี้เป็นโอกาสอันดีจริงๆ ที่เราจะเปลี่ยนแปลงผลักดันประเทศไทยไปข้างหน้า พรรคก้าวไกลรู้ดีว่าเรื่องที่เสนอเป็นเรื่องยาก แต่ประเทศไทยจะไปต่อไม่ได้ ถ้าเราไม่ต่อสู้กับกลุ่มทุนผูกขาด นักการเมืองที่สมคบกับผู้สืบทอดอำนาจ กองทัพ รัฐราชการ ที่เป็นโซ่ตรวนที่ฉุดรั้งไม่ให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า
ส่วนคาราวานสายเหนือ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่สวนกลางเมืองพิษณุโลก โดยมีผู้สมัครทั้ง 4 เขตขึ้นปราศรัย พร้อมแกนนำคือ ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล และพรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล รวมถึง ปดิพัทธ์ สันติภาดา ผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 เบอร์ 9 โดยมีประชาชนมาฟังปราศรัยเต็มสวนกลางเมือง
พรรณิการ์กล่าวว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ผู้มีอำนาจหวาดกลัวกระแสพรรคก้าวไกล กลัวการเปลี่ยนแปลง จึงหันมาใช้มุกเดิม คือการเมืองแห่งความกลัว มีทั้งออกคลิปโจมตีว่าประเทศไทยที่ไม่เหมือนเดิมจะเป็นอย่างไร มีทั้งการปลุกเรื่องล้มเจ้า การแบ่งแยกดินแดน และล่าสุด ขู่ว่าจะยุบพรรคก้าวไกล จะตัดสิทธิ์พิธา
“การเมืองแห่งความกลัวเคยได้ผลมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ประชาชนถูกหลอกว่า รับไปก่อน แก้ทีหลัง ถ้าไม่รับร่าง จะไม่ได้เลือกตั้ง คนกลัวไม่ได้เลือกตั้ง จึงไปการับร่างรัฐธรรมนูญ ผลของการเลือกด้วยความกลัวในวันนั้น ทำให้เราต้องอยู่ใต้รัฐบาลสืบทอดอำนาจมา 9 ปี และติดกับดักรัฐธรรมนูญฉบับ คสช. การเลือกด้วยความกลัวไม่เคยให้อะไรกับเรา ขอพี่น้องประชาชนเลือกด้วยความหวัง ว่าหนึ่งเสียงของเราจะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ประเทศได้ เปลี่ยนด้วยมือของคนธรรมดา ประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศ” พรรณิการ์กล่าว