ไม่พบผลการค้นหา
'ชลบุรี-ภูเก็ต' ครองตำแหน่งจังหวัดสุดฮอต อุณหภูมิสูงสุด 53 องศา ในช่วง 15 -16 เมษายน เตือนประชาชนระวังภาวะลมแดด

15 เม.ย. 2566 มีรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายค่าดัชนีความร้อนสูงสุด หรืออุณหภูมิที่คนเรารู้สึกได้ในขณะนั้น โดยพบว่าวันที่ (14-16 เมษายน 2566) มีจังหวัดที่มีค่าดัชนีความร้อนสูงสุด (°C) ดังนี้

วันที่ 15 เมษายน 2566

เพชรบูรณ์ = 47.2 อยู่ในระดับอันตราย

โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม = 43.7 อยู่ในระดับอันตราย

บางนา กทม. = 52.7 อยู่ในระดับอันตราย

ชลบุรี = 53.0 อยู่ในระดับอันตราย

ภูเก็ต = 49.6 อยู่ในระดับอันตราย

วันที่ 16 เมษายน 2566

เพชรบูรณ์ = 46.6 อยู่ในระดับอันตราย

โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม = 43.0 อยู่ในระดับอันตราย

บางนา กทม. = 50.6 อยู่ในระดับอันตราย

ชลบุรี = 49.1 อยู่ในระดับอันตราย

ภูเก็ต = 53.5 อยู่ในระดับอันตราย

สำหรับค่าดัชนีความร้อนสูงสุด สามารถแบ่งเป็น 4 ระดับ ดังนี้

ระดับเฝ้าระวัง (สีเขียว) ดัชนีความร้อน 27-32 องศาเซลเซียส ส่งผลกระทบต่อสุขภาพคือ อ่อนเพลียวิงเวียน คลื่นไส้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัวจากการสัมผัสความร้อน หรือออกกำลังกาย หรือการใช้แรงงานกลางแจ้งท่ามกลางอากาศร้อน

ระดับเตือนภัย (สีเหลือง) ดัชนีความร้อน 32-41 องศาเซลเซียส ส่งผลกระทบต่อสุขภาพคือ เกิดภาวะตะคริวจากความร้อน และเกิดอาการเพลียแดด หากสัมผัสความร้อนเป็นเวลานาน

ระดับเตือนภัย (สีส้ม) ดัชนีความร้อน 41-54 องศาเซลเซียส ส่งผลกระทบต่อสุขภาพคือ มีอาการตะคริวที่น่อง ต้นขา หน้าท้อง หรือไหล่ ทำให้ปวดเกร็ง มีอาการเพลียแดด และอาจเกิดภาวะลมแดด หรือฮีตสโตรก หากสัมผัสความร้อนเป็นเวลานาน

ระดับเตือนภัย (สีแดง) ดัชนีความร้อน มากกว่า 54 องศาเซลเซียส ส่งผลกระทบต่อสุขภาพคือ เกิดภาวะลมแดด หรือฮีตสโตรก (Heat stroke)