ไม่พบผลการค้นหา
เตือนการใช้ความเร็วบนถนน 120 กม./ชม. อาจเพิ่มความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุรุนแรงและมากขึ้น ขณะที่ RFB ต้องดูว่ามีความฝืดมากพอลดการเกิดอุบัติเหตุได้หรือไม่

จากกรณีกรมทางหลวงชนบทเตรียมความพร้อมปรับปรุงถนนและเพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัย โดยเตรียมนำร่องการใช้กำแพงคอนกรีตหุ้มด้วยแผ่นยางธรรมชาติ (Rubber Fender Barrier : RFB) บนทางหลวงชนบท นบ. 3021 หรือถนนราชพฤกษ์เริ่มต้นถนนสาทรถึง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตรเพื่อรองรับการใช้ความเร็วรถในเลนขวาสุด 120 กม./ชม. เลนกลางความเร็ว 110 กม./ชม. และเลนซ้าย 90 กม./ชม. เนื่องจาก ถ.ราชพฤกษ์มีความพร้อม เพราะปัจจุบันเป็นขนาด 10 ช่อง ไป-กลับ เป็นรูปแบบเกาะยกและมีปริมาณการจราจร1แสนคันต่อวัน ถือเป็นการนำร่องเส้นทางแรกของถนนทางหลวงชนบท (ทช.)

กัณวีร์ กนิษฐพงศ์ ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการด้านวิศวกรรมจราจร มองว่า การเพิ่มความเร็วในการขับรถยนต์บนถนน จริงๆ แล้ว มีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสูง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เห็นด้วยและได้ย้ำมาตลอด แต่เมื่อภาครัฐตัดสินใจดำเนินการ คงไม่สามารถไปห้ามได้ คงต้องติดตามผลหลังจากนี้ว่าเมื่อเปิดให้ใช้ความเร็ว 120 กม./ชม.แล้ว จะมีจำนวนอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่ถนนทางหลวงชนบท จะเป็นเส้นทางสายรอง อย่างไรก็ตามต้องตระหนักถึงความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากถนนดังกล่าวมีปริมาณการจราจรหนาแน่น การใช้ความเร็วอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงมากขึ้น

ส่วนแบริเออร์หุ้มยางธรรมชาติ กัณวีร์ เห็นว่า การหุ้มด้วยแผ่นยางธรรมชาติ ไม่น่าจะมีผลต่อการรองรับความเร็วของรถที่สูงขึ้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เพราะยังไม่มีผลวิจัย หรือบทความทางวิชาการรองรับว่าจะมีความต่างจากแบริเออร์ปกติ เพราะหลักการทำงานของแบริเออร์ต้องทำให้เกิดความฝืดสูง เพื่อให้รถไถลไปชะลอ เพราะหากชนแล้วกระเด้งกลับมายังช่องจราจรอีก อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน อย่างไรก็ตามต้องติดตามต่อไปว่าสถิติการเกิดอุบัติเหตุของถนนเส้นดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นหรือไม่