ต่างประเทศ
เกาหลีใต้กำลังวิกฤต: เมื่อโควิด-19 ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
วันที่ 23 ก.พ. สื่อเกาหลีใต้รายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เพิ่มขึ้นอีก 169 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากโควิด -19 เพิ่มขึ้นอีก 5 ราย ส่งผลให้เกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อไวรัสฯแล้ว 602 มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากจีน
หน่วยงานป้องกันแล้วควบคุมโรคของเกาหลีใต้ (KCDC) ระบุว่า ผู้ติดเชื้อฯรายใหม่ 75 รายพบว่ามีประวัติเกี่ยวข้องกับการเข้าร่วมกิจกรรมในโบสถ์ของลัทธิชินชอนจิในเมืองเเดกู ซึ่งได้กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในเกาหลีใต้
นอกจากนี้ทาง KCDC ยังตรวจพบว่า มีประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมกับโบสถ์ดังกล่าวมากกว่าหมื่นคน ปัจจุบันมีคำสั่งให้ประชาชนกว่า 9,000 คนที่เป็นสมาชิกของโบสถ์ดังกล่าวกักตัวเองอยู่ในบ้านเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อฯ ทาง KCDC ยังระบุว่า มีจำนวน 1,248 คนใน 9,334 คนมีอาการของโรคโควิด-19
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดจากผู้ติดเชื้อฯรายที่ 31 ได้เข้าร่วมกิจกรรมของโบสถ์ลัทธิชินชอนจิในช่วงต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนที่ได้แสดงอาการและได้รับการยืนยันว่าเป็นผู้ป่วยโควิด-19
แผนกจิตเวชติดในรพ.เกาหลีใต้ติดเชื้อไวรัสฯเกือบทุกคน
รายงานของ KCDC ระบุว่า ผู้เสียชีวิต 3 รายล่าสุดเป็นผู้ป่วยในแผนกจิตเวชของโรงพยาบาลชองโด ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายได้ถูกย้ายออกมารักษาโควิด-19 ก่อนที่จะมีการเสียชีวิต
ในรายงานยังระบุว่า ในแผนกจิตเวชของ รพ.ชองโดมีผู้ติดเชื้อไวรัสฯอย่างน้อย 110 คน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ 9 คนที่ได้รับเชื้อฯดังกล่าว โดยปัจจุบันทางการเมืองชองโดกำลังเร่งสอบสวนถึงการระบาดดังกล่าวภายใน รพ.โดยคาดว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับกิจกรรมของลัทธิชินชอนจิ
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เมื่อช่วงต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา อาคารของแผนกจิตเวชของรพ.ชอนโดถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานศพของพี่ชายผู้นำลัทธิชินชอนจิ ซึ่งการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสฯอาจจะเกิดจากกิจกรรมดังกล่าว
ทั้งนีี้ทางกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้กังวลว่า เชื้อไวรัสฯ จะแพร่กระจายอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในโรงพยาบาลหรือคลินิกต่างๆ เนื่องจาก ผู้ที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สุดต่อการติดเชื้อไวรัสฯ หลังจากที่ผู้ป่่วยเกือบทั้งหมดของแผนกจิตเวชในโรงพยาบาลชองโดถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา
ซัมซุงสั่งปิดโรงงานหลังพบคนงานติดเชื้อฯ
บริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ของเกาหลีใต้ มีคำสั่งปิดโรงงานซัมซุงในเมืองกูมีชั่วคราว หลังจากพบว่ามีพนักงานในโรงงานติดเชื้อไวรัสฯ โดยทางบริษัทซัมซุงระบุว่าจะปิดโรงงานผลิตมือถือดังกล่าวจนถึงวันที่ 25 ก.พ.นี้ และมีคำสั่งให้พนักงานที่มีประวัติติดต่อหรือเกี่ยวข้องกับผู้ติดเชื้อไวรัสฯ ให้กักตัวที่บ้านและเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสฯ
โรงงานซัมซุงในเมืองกูมีนั้นเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนสมาร์ทโฟนทั้งหมดของซัมซุงรวมไปถึงสมาร์ทโฟนรุ่นพรีเมี่ยมอย่าง Galaxy Fold และ รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Galaxy Z Flipด้วย
อย่างไรก็ตามทางซัมซุง คาดว่าการปิดโรงงานดังกล่าวจะไม่กระทบกับการผลิตโทรศัพท์มากนัก เนื่องจากการผลิตส่วนใหญ่มีฐานอยู่ในประเทศอื่นๆ
สหรัฐฯ ยกระดับเตือนการเดินทางไปเกาหลีใต้
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯประกาศยกระดับมาตรการคุมเข้มการเดินทางไปยังเกาหลีใต้ หลังจากที่ตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อไวรัสฯในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งตามแถลงการณ์ในหน้าเว็บไซต์ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯได้จัดให้เกาหลีใต้อยู่ในประเทศกลุ่มที่ 2 โดยเป็นระดับการเตือนให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางไปเกาหลีใต้
แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศยังระบุว่า อัตราจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเกาหลีใต้ โดยยังไม่ทราบสาเหตุการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสฯและสถานที่ที่เชื้อไวรัสฯแพร่กระจายอย่างชัดเจน ดังนั้นประชาชนที่จะเดินทางไปยังเกาหลีใต้ควรเพิ่มความระมัดระวังตัวเอง ขณะที่ผู้สุงอายุและผู้ที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพ ควรพิจารณาเลื่อนการเดินทางไปยังเกาหลีใต้ เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจะติดเชื้อไวรัสได้ง่าย
ปัจจุบันประธานาธิบดีมุนแจอินของเกาหลีใต้ประกาศการเตือนภัยโรคระบาดในเกาหลีใต้อยู่ใน 'ระดับสูงสุด' ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญหลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสฯเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดและต่อเนื่อง โดยในเมืองอื่นๆของเกาหลีใต้เรืิ่มมีรายงานผู้ติดเชื้อฯแล้วเช่นกัน โดยในเมืองกวางจู และเมืองเชจูก็มีรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสฯแล้วอย่างละ 1 ราย ขณะที่ปูซานพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 2 รายรวมแล้วมีทั้งหมด 7 ราย
ก่อนหน้านี้รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ประกาศให้เขตเมืองแดกูและเขตเมืองชองโดเป็น 'เขตการจัดการพิเศษ' เพื่อรับมือกับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ทางการอิสราเองตรวจพบชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางไปแสวงบุญในอิสราเอล 18 คนมีเชื้อไวรัสฯเช่นกันและมีคำสั่งห้ามผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเกาหลีใต้เข้าประเทศอิสราเอล
ที่มา koreatimes / Bloomberg /Yonhap / NST
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
