พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลไทย ให้การต้อนรับคณะผู้แทนรัฐบาลมาเลเซีย นำโดย ดร. วัน อาซีซะห์ วัน อิสมาอิล รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเดินทางเยือนไทยพร้อมคณะรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ วันนี้ (25 ม.ค. 2562) โดย ดร.วัน อาซีซะห์ ได้พบกับ พล.อ.ประยุทธ์ที่ทำเนียบและพูดคุยกันประมาณ 25 นาที

หลังจากนั้น นิวสเตรทไทม์ส สื่อของมาเลเซีย รายงานว่า รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียหารือเพิ่มเติมกับ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรีไทย ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ โดยมีการพูดคุยสร้างความเข้าใจเรื่องการผลักดันโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-มาเลเซีย 2 แห่ง เชื่อมต่อตากใบสู่เป็งกาลันกุโบร์ และสุไหงโก-ลกไปยังรันเตาปันจัง เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ โดยมีการตั้งเป้าว่า สะพานมิตรภาพดังกล่าวจะเป็นเส้นทางคมนาคมและลำเลียงสินค้า ที่จะส่งเสริมให้ตลาดการค้าบริเวณชายแดนขยายตัว ส่งผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ

ดร. วัน อาซีซะห์ เปิดเผยกับสื่อมาเลเซียว่า ในเบื้องต้น รัฐบาลทั้งสองประเทศเห็นชอบว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสะพานมิตรภาพคนละครึ่ง แต่ยังไม่ได้กำหนดกรอบเวลาดำเนินการก่อสร้างสะพานอย่างชัดเจน เพราะตัวแทนรัฐบาลทั้งสองประเทศต้องหารืออย่างเป็นทางการอีกครั้งในเดือน มี.ค.2562 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย โดยจะเป็นการพูดคุยในกรอบทวิภาคีและคุยในรายละเอียดเชิงเทคนิค

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายเป็นกังวลและต้องวางแผนหารืออย่างจริงจัง คือ ประเด็นความมั่นคงและความปลอดภัยตามแนวชายแดน ซึ่งทางฝั่งมาเลเซียอาจต้องพิจารณาย้ายที่ตั้งค่ายทหารบูกิตกายูฮีตัมเสียใหม่

นอกจากนี้ มาเลเซียจะเริ่มบังคับใช้มาตรการดำเนินการตรวจคนเข้าเมืองรูปแบบใหม่บริเวณด่านตรวจบูกิตกายูฮีตัม ซึ่งเชื่อมต่อกับชายแดนด่านสะเดาใน จ.สงขลา ของไทย โดยระบุว่าศุลกากรและด่านกักกันด้านความปลอดภัย เดิมเปิดทำการวันละ 18 ชั่วโมง จะขยายเวลาทำการเป็น 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2652 เป็นต้นไป เพื่ออำนวยความสะดวกและกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าชายแดนระหว่างไทย-มาเลเซีย

สื่อมาเลเซียระบุว่า ไทยเป็นคู่ค้าของมาเลเซียที่มีตลาดขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 รองจากจีน สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น แต่เป็นอันดับ 2 ของอาเซียน โดยมูลค่าการค้าในกรอบทวิภาคีระหว่างไทย-มาเลเซียเมื่อปี 2561 อยู่ที่ประมาณ 96,780 ล้านริงกิตมาเลเซีย เพิ่มขึ้นจาก 90,550 ล้านริงกิตเมื่อปี 2560