ริชาร์ด เพนซ์ ช่างเครื่องของบริษัทฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ผู้ผลิตซูเปอร์ไบค์ชื่อดังของสหรัฐฯ ซึ่งทำงานมานานกว่า 21 ปี พร้อมด้วยสมาชิกสหภาพแรงงานอีกจำนวนหนึ่ง ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภาของสหรัฐฯ ด้านแรงงาน เมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจากฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ประกาศเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาว่า จะปิดโรงงานผลิตที่เมืองแคนซัสซิตี้ของสหรัฐฯ ในปีหน้า 

เว็บไซต์เจอร์นัลเซนติเนล สื่อท้องถิ่นของสหรัฐฯ รายงานว่า แผนปิดโรงงานฮาร์ลีย์-เดวิดสันในแคนซัสซิตี้จะส่งผลกระทบต่อพนักงานราว 800 ราย ซึ่งคณะทำงานด้านแรงงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้พยายามเจรจาต่อรองให้ฮาร์ลีย์-เดวิดสันดำเนินการที่แคนซัสซิตี้ต่อไป แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ โดยบริษัทระบุว่าพนักงานที่แคนซัสซิตี้จะถูกย้ายไปทำงานต่อที่โรงงานในเมืองยอร์ก 

เพนซ์แย้งว่าตำแหน่งงานที่ยอร์กสามารถรองรับพนักงานเพิ่มได้ประมาณ 400 คนเท่านั้น และทางฮาร์ลีย์-เดวิดสันมีแผนชัดเจนว่าจะตั้งโรงงานในประเทศไทยเพื่อเป็นฐานการผลิตและดำเนินธุรกิจในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเขาได้วิพากษ์วิจารณ์ว่าการย้ายฐานผลิตไปยังประเทศไทย สวนทางกับนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เคยให้คำมั่นสัญญาว่าจะส่งเสริมการลงทุนเพิ่มเติมภายในประเทศ

ขณะที่เว็บไซต์ USA Today รายงานว่าสมาชิกสหภาพแรงงานหลายคนกล่าวพาดพิงการตั้งโรงงานฮาร์ลีย์-เดวิดสันในไทย ส่งผลกระทบต่อพนักงานที่ประจำอยู่ในฐานการผลิตที่เมืองแคนซัสซิตี้ของสหรัฐฯ

โดยนายบ๊อบ มาร์ติเนซ ประธานสมาคมแรงงานช่างยนต์และอุตสาหกรรมอากาศยานแห่งสหรัฐฯ ระบุว่า บริษัทขนาดใหญ่ได้รับประโยชน์จากมาตรการลดหย่อนภาษี แต่ขณะเดียวกันก็เลือกที่จะตั้งโรงงานใหม่ในต่างประเทศซึ่งต้นทุนถูกกว่า เข้าข่าย 'ฉวยโอกาส'

อย่างไรก็ตาม ฮาร์ลีย์-เดวิดสันแถลงว่า โรงงานที่กำลังก่อสร้างในประเทศไทยไม่เกี่ยวข้องกับการปิดโรงงานในแคนซัสซิตี้ เพราะโรงงานในไทยเป็นฐานการประกอบ ไม่ใช่ฐานการผลิต และบริษัทตั้งเป้าว่าจะต้องขยายตลาดในต่างประเทศให้ได้มากกว่าร้อยละ 50 ภายในปี 2027 เพราะตลาดในสหรัฐฯ เริ่มหดตัวลงเรื่อยๆ

เว็บไซต์เจอร์นัลเซนติเนลรายงานด้วยว่า การประชุมกลุ่มผู้ถือหุ้นของฮาร์ลีย์-เดวิดสันซึ่งจัดขึ้นเมื่อพฤหัสบดีที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นการจัดประชุมในวันธรรมดาครั้งแรก เปลี่ยนจากทุกปีที่เคยจัดในวันเสาร์ ทั้งยังเป็นปีแรกที่ทางบริษัทสั่งห้ามผู้สื่อข่าวเข้าร่วมการประชุมผู้ถือหุ้น

Photo by Andrei Ianovskii on Unsplash

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• 'ทรัมป์' ลงนามขึ้นภาษีเหล็ก-อลูมิเนียม แต่ไม่ใช้กับพันธมิตร
• นโยบายกีดกันการค้าทรัมป์กระทบไทยแค่ไหน?