ไม่พบผลการค้นหา
'พานทองแท้' โพสต์เฟซบุ๊กชี้ต้นไม้พิษได้ผลไม้พิษด้วย เปรียบ กรธ. เหมือนเชฟ เมื่อปรุงอาหารแล้วต้องกล้าชิมอาหารตัวเอง แต่ออกกฎหมายแล้วอดีตประธาน กรธ.ต้องลาออกจากนายกสภามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง หวั่นต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินตามกฎหมายที่ตัวเองได้วางไว้

นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร เมื่อ “คนเขียนกฎหมาย เลี่ยงที่จะอยู่ภายใต้กฏหมายที่ตัวเองเขียน” 

“คนร่างกฎหมาย ก็เปรียบเสมือน เชฟปรุงอาหารที่ในเมื่อตัวเองยืนยันว่าอาหารที่ปรุงเองกับมือนั้น มีรสชาติกลมกล่อมและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ หรือกินแล้วไม่ตาย ตัวเองก็สมควรจะกล้ากินอาหารนั้นเป็นตัวอย่าง เพื่อให้ลูกค้าทั้งประเทศเชื่อมั่น และกล้าที่จะฝากท้องฝากสุขภาพไว้ด้วย แต่ถ้าตัวพ่อครัวเองยังไม่กล้ากิน จนถึงขั้นยอมลาออกหนีกันหมดทั้งครัวแบบนี้ ลูกค้าทั้งหลายจะยังคงต้องให้ความไว้วางใจ ยอมที่จะกลืนกินมันเข้าไปอีกหรือ..?

นายพานทองแท้ ย้ำว่า อาหารแค่จานเดียว ซึ่งก็คือกฎหมายลูกแค่ฉบับเดียว แต่อาหารทั้งหมดที่พ่อครัวคณะนี้ (คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ) ปรุงทิ้งไว้ คือกฎหมายแม่ทั้งฉบับ ประกอบกับกฎหมายฉบับอื่นๆอีกนับไม่ถ้วน โดยตลอด 4 ปีครึ่งที่ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับเดิมมา พ่อครัวใหญ่คนเดิมกับคณะมือกฎหมายเดิมๆร่างไว้เรียบ น่าจะมีเป็นหลักร้อยฉบับ ที่เขียนเอาไว้เสร็จเรียบร้อยจนพร้อมเสิร์ฟขึ้นโต๊ะทั้งหมดแล้ว

"ไม่มีใครรู้ว่า 4 ปีที่ผ่านมา พ่อครัวแต่ละคนมีเงินเพิ่มขึ้นเยอะขนาดไหน เพราะเขาไม่เคยเปิดเผยให้เรารู้ ไม่มีใครรู้เหตุผลว่าเหตุใดจึงไม่กล้าโชว์ทรัพย์สิน หรือว่ามีเหตุผลอื่นใดนอกเหนือจากนี้กันแน่ จึงต้องยอมเสียหน้ายอมลาออกจากตำแหน่งพร้อมๆกัน แบบหัวซุกหัวซุนขนาดนี้"

นายพานทองแท้ ระบุด้วยว่า นึกถึงตอนที่คุณพ่อ(นายทักษิณ) พาไปกินปลาฟุกุ ถ้าตอนทำเสร็จแล้วนำมาเสิร์ฟ ลองให้พ่อครัวกินให้ดู ปรากฏว่าพ่อครัววิ่งหนีออกจากร้านกันหมด ไม่ยอมชิมกันสักคน ถ้าผมหยิบใส่ปากเข้าไปแล้ว ก็คงจะถุยทิ้ง หรือถ้าเผลอกลืนเข้าไปแล้ว คงต้องล้วงคอสำรอกออกมาให้หมด

"หรือว่าเหตุการณ์นี้ เหมือนกับที่คุณพ่อผมเคยพูดไว้ ต้นไม้พิษ ผลของมันจะแลดูน่ากินอย่างไร ก็ยังคงเป็นผลไม้พิษด้วยเสมอ อย่างนั้นหรือเปล่าครับ"

ทั้งนี้มีรายงานข่าวระบุว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธาน กรธ. ได้ลาออกจากตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ (มรร.) โดยมีผลเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งการลาออกครั้งนี้มีผลจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกประกาศให้ข้าราชการระดับสูง รวมทั้งนายกสภาและกรรมการสภามหาวิทยาลัยต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน รวมทั้งคู่สมรสที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียนด้วย ทำให้เป็นเหตุผลหนึ่งที่นายมีชัยต้องลาออกจากนายก มมร.