การประชุมคณะทำงานดำเนินคดีขบวนการรับสมอ้างกระทำผิดแทนนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาคดีข้อหาร่วมกันนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จต่อศาล พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รักษาราชการแทน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.นครพนม ร่วมประชุมหารือกับคณะทำงานดำเนินคดี ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งฝากขังค่อศาลจังหวัดนครพนม ในข้อหาเบิกความเท็จ และซ่องโจร      

ศาลจังหวัดนครพนม พิจารณาการขอยื่นประกันตัว นางจอมทรัพย์ กรณีขอรื้อฟื้นคดีที่นางจอมทรัพย์ขับรถชนคนเสียชีวิต อั้งยี่ซ่องโจร โดยญาติใช้หลักทรัพย์จำนวน 200,000 บาท ยื่นขอประกัน นางจอมทรัพย์แถลงต่อศาลว่าครอบครัวมีอาชีพมั่นคง มีบ้านพักอาศัย ไม่หลบหนีแน่นอน ยินดีจะให้ความร่วมมือในการสอบสวน ขอคัดค้านการฝากขัง และหากเข้าไปอยู่ในเรือนจำกลางจังหวัดนครพนม เกรงจะไม่มีความปลอดภัย ศาลพิจารณาแล้ว คดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน เกรงผู้ต้องหาจะไปวุ่นวายกับพยาน ในเบื้องต้น จึงมีความเห็นไม่อนุญาตให้ประกันตัว พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ดูแลอย่างใกล้ชิด      

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า นางจอมทรัพย์ ยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ตั้งแต่กระบวนการขอรื้อฟื้นคดี ไปจนถึงการให้ความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกระทรวงยุติธรรม นางจอมทรัพย์ระบุว่า เจ้าหน้าที่มีส่วนรู้เห็น กรณีที่นายสับ วาปี เป็นพยานหลักฐานเท็จตั้งแต่แรก ซึ่งตำรวจเตรียมออกหมายเรียกเจ้าหน้าที่ที่ถูกพาดพิง มาสอบปากคำส่วนนายสับ วาปี และนางจัน ภรรยา ซึ่งเข้ามอบตัวเองพนักงานสอบสวน ไม่ได้คัดค้าน ศาลจึงอนุญาตให้ประกันตัว  

ขณะที่ในวันนี้ ครบกำหนดวันที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม มีหมายเรียกครั้งที่หนึ่ง นายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร สามีของนางจอมทรัพย์ และ นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ พยานผู้เห็นเหตุการณ์คดีขับรถยนต์ชนคนเสียชีวิต เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแจ้งความเท็จ ในเวลา 09.00น. แต่บุคคลทั้งสองไม่ได้เดินทางมา

พล.ต.ต.สุวิชาญ เปิดเผยว่า ถ้าไม่มาก็จะออกหมายเรียกเป็นครั้งที่สองและหากไม่มาอีกจะเป็นหมายจับทันที เพราะให้โอกาสมาชี้แจงทุกอย่าง ขณะนี้ผู้ต้องหาทั้งสองยังอยู่ในบ้านพัก แต่ไม่ได้ติดต่อเข้ามา ไม่แน่ใจว่าเขาคิดหลบหนีหรือเปล่า ขณะนี้ยังตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา จะผิดหรือถูกก็เป็นอีกเรื่อง ต้องมาให้ปากคำกับตำรวจ ถ้าหมายเรียกสองครั้งไม่มา ก็ขออนุมัติหมายจับจากศาล

ที่มา: เว็บไซต์ศูนย์ข่าวแปซิฟิก