ไม่พบผลการค้นหา
แบงก์ชาติโต้เพจ 'ไพศาล พืชมงคล' ติง 'ผลขาดทุน ธปท. ปี'60 เกือบ 9 แสนล้าน' ยันเป็น 'ผลขาดทุนจากการตีราคา' เมื่อเงินบาทแข็งค่า ธปท.จะขาดทุน ในทางกลับกัน เมื่อเงินบาทอ่อนค่า ธปท.จะมีกำไร วอนประชาชนคลายกังวล ประเทศไทยมีทุนสำรองระหว่างประเทศมั่นคง ไม่ซ้ำรอยปี 2540

นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตามที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับผลขาดทุนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่แชร์กันตาม social media อาจสร้างความตกใจให้กับผู้อ่าน เพราะมีข้อเท็จจริงและความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหลายประการ

 ธปท. ขอเรียนข้อเท็จจริง ดังนี้ 

 1. ธปท. ไม่ได้เก็งกำไรค่าเงิน 

ธปท. เข้าไปซื้อเงินตราต่างประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งค่าเร็วเกินควร จนอาจจะเป็นผลเสียต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ยังเปราะบาง เมื่อ ธปท. ซื้อเงินตราต่างประเทศแล้ว ก็บริหารเงินสำรองระหว่างประเทศด้วยความรอบคอบโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ระยะยาว และเปิดเผยตัวเลขฐานะทุนสำรองระหว่างประเทศทุกสัปดาห์

 2. เงินสำรองระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากเงินตราต่างประเทศที่ไหลเข้ามาในประเทศไทยมาก ทั้งจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูงต่อเนื่องมาหลายปี และการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ

 3. เมื่อเงินบาทแข็งค่าขึ้น จึงเกิดการขาดทุนจากการตีราคา (valuation loss) หรือ การขาดทุนทางบัญชี และในทางตรงข้าม ถ้าเงินบาทอ่อนค่าลง เงินสำรองฯ ที่ตีมูลค่าเป็นเงินบาทก็จะเพิ่มขึ้น (valuation gain) หรือมีกำไรทางบัญชี

โดยปกติเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น ค่าเงินมีแนวโน้มแข็งขึ้น ธนาคารกลางก็มักจะขาดทุนจากการตีราคา แต่ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี ค่าเงินอ่อนค่าลง ส่งผลให้ธนาคารกลางมักจะมีกำไรจากการตีราคา

ณ สิ้นปี 2560 ธปท. มีเงินสำรองระหว่างประเทศรวมฐานะการซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าประมาณ 2.4 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเงินบาทแข็งค่าขึ้นหนึ่งบาทเทียบกับเงินดอลลาร์ ธปท. จะขาดทุนจากการตีราคาทันที 2.4 แสนล้านบาท ในทางตรงกันข้าม ถ้าเงินบาทอ่อนค่าลงหนึ่งบาท ธปท. ก็จะมีกำไรจากการตีราคาทันที 2.4 แสนล้านบาท โดยไม่ต้องทำอะไรเลย

4. เงินสำรองระหว่างประเทศต้องเก็บอยู่ในรูปเงินตราต่างประเทศเพื่อให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยมีเงินตราต่างประเทศเพียงพอ สำหรับรองรับการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ การไปลงทุนในต่างประเทศของคนไทยและเป็นกันชนรองรับการไหลออกของเงินทุน ซึ่งเกิดขึ้นได้จากทั้งโดยนักลงทุนไทยและนักลงทุนต่างชาติ และปัจจุบัน เงินสำรองฯของไทยอยู่ในระดับมั่นคงเพียงพอ ซึ่งต่างจากสถานการณ์ในช่วงปี 2540

5. เงินสำรองฯ ที่ ธปท. ซื้อเข้ามายังอยู่ในรูปของเงินตราต่างประเทศ ไม่ได้เสื่อมคุณภาพลงเมื่อเวลาผ่านไปเหมือนกับสินค้าเกษตรหรือสินค้าโภคภัณฑ์ที่บทความนำไปเปรียบเทียบ 

มูลค่าของเงินสำรองระหว่างประเทศในรูปของเงินบาทจะเปลี่ยนแปลงได้ทั้งเพิ่มขึ้นและลดลงตามอัตราแลกเปลี่ยน การขาดทุนจากการตีราคาทางบัญชี ไม่ได้แปลว่าเงินสำรองฯ ที่ ธปท. ถืออยู่จะด้อยค่าลงเรื่อยๆ จนสร้างปัญหาให้แก่ความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ

ทั้งนี้ คำชี้แจงจาก ธปท. ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีการเผยแพร่บทความของ 'สิริอัญญา' ผ่านแฟนเพจ เฟซบุ๊กของ 'Paisal Puechmongkol' โดยระบุถึง ผลขาดทุนในการแสดงผลดำเนินงานของ ธปท. ในปี 2560 ว่า ขาดทุนมากถึง 9 แสนล้านบาท พร้อมเปรียบว่ามากกว่าผลขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

สำหรับ 'สิริอัญญา' เป็นนามปากกาของนายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย ผู้มีอาชีพเป็นทนายความ และนักบริหารเจ้าของบริษัท ธรรมนิติ จำกัด (มหาชน) อดีตนักเขียนประจำคอลัมน์ 'ข้างประชาราษฎร์' ของหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการรายวัน ปัจจุบันนายไพศาล เป็นกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และอดีตสมาชิกวุฒิสภา 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :