พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 23 – 24 กรกฎาคมนี้ นายกรัฐมนตรีจะนำคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจราชการและประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม. สัญจร) ที่จังหวัดอำนาจเจริญและ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มจังหวัดราชธานีเจริญศรีโสธร (อุบลราชธานี-อำนาจเจริญ-ศรีสะเกษ-ยโสธร)
โดยการตรวจราชการนั้นให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและพัฒนาเกษตรอินทรีย์ การพัฒนาแพทย์แผนไทยที่มีมาตรฐานบูรณาการกับการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน การอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้เพื่อสร้างสมดุลธรรมชาติ และการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพ มุ่งไปสู่เป้าหมายการพัฒนากลุ่มจังหวัด คือ 'อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและเกษตรอินทรีย์เพิ่มมูลค่า การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ การค้าชายแดนได้มาตรฐานสากล'
สำหรับสภาพปัญหาของพื้นที่ที่รัฐบาลเล็งเห็นว่าเป็นประเด็นสำคัญและต้องเร่งแก้ไข คือ รายได้ของประชาชนอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะ จังหวัดยโสธร ศรีสะเกษ และอำนาจเจริญ นั้นติด 1 ใน 10 จังหวัดที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อหัวต่ำที่สุดของประเทศ มีความก้าวหน้าด้านการศึกษาน้อย เกิดภาวะน้ำท่วมน้ำแล้งซ้ำซาก และมีปริมาณขยะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ครม. จะได้พิจารณาข้อเสนอแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของกลุ่มจังหวัด ได้แก่
รัฐบาล วางแผนพัฒนาเกษตรอินทรีย์ 5 ปี จัดตั้งสถาบันฯนำร่องพื้นที่ 'ยโสธร'
ด้าน พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ที่มี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีกลาโหม เป็นประธานว่า ความคืบหน้าในการดำเนินงานของคณะอนุกรรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปภาคการเกษตรมีเรื่องการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์ของชาติ พ.ศ. 2560 - 2564 โดยในแผนงานกำหนดการขับเคลื่อนไว้ 4 ยุทธศาสตร์ คือ
ส่วนกลไกขับเคลื่อนทั้งในระดับชาติและระดับพื้นที่จะใช้หลักการตลาดนำการผลิต อีกทั้งกำหนดพื้นที่เป้าหมาย 7 ประเภท คือ ใกล้โรงพยาบาล โรงเรียน โรงแรม ใกล้พื้นที่ที่เป็นการปฏิบัติงานของคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ พื้นที่ สปก. พื้นที่เอกชนกลุ่มเกษตรกร และพื้นที่ที่เกษตรกรมีความพร้อมที่จะเป็นพื้นที่หลักในการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ โดยจะใช้กลไกขับเคลื่อนระหว่างกลุ่มจังหวัดร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับกระทรวงมหาดไทยอาศัยความร่วมมือของภาครัฐและภาคเอกชน อย่างไรก็ตามขณะนี้มีการนำร่องทำเกษตรอินทรีย์แล้วที่จังหวัดยโสธร