ไม่พบผลการค้นหา
กรมควบคุมมลพิษ ขอความร่วมมือประชาชนและนักท่องเที่ยว ลดทิ้งขยะตามแหล่งท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ หลังพบปริมาณขยะมูลฝอยในแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นในปี 2559

นางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า รัฐบาลได้มีนโนบายการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้การท่องเที่ยวเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวนิยมเข้าไปเที่ยวไปในแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งทำให้ปริมาณขยะมูลฝอยในแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวต่างๆ นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติทั่วประเทศ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นอุทยานแห่งชาติ ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และเกิดขยะมูลฝอยขึ้น โดยแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมจากปี 2559 ได้แก่ เขาใหญ่ มีปริมาณนักท่องเที่ยว 1,335,000 คน ดอยอินทนนท์ มีปริมาณนักท่องเที่ยว 806,000 คน เอราวัณ มีปริมาณนักท่องเที่ยว 692,000 คน หาดนพรัตน์ธารา –หมู่เกาะพีพี มีปริมาณนักท่องเที่ยว 1,731,570 คน เป็นต้น 

นางสุณี กล่าวว่า ปี ๒๕๕๙ มีขยะมูลฝอยเกิดขึ้นทั่วประเทศ 27.06 ล้านตัน หรือ 74,130 ตัน/วัน มีอัตราการเกิดขยะมูลฝอยต่อคนเพิ่มขึ้นจาก 1.13 กิโลกรัม/คน/วัน ในปี 2558 เป็น 1.14 กิโลกรัม/คน/วัน โดยจังหวัดที่มีปริมาณขยะมูลฝอยเกิดขึ้นต่อวันสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี นครราชสีมา สมุทรปราการ และขอนแก่น กรมควบคุมมลพิษ ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาขยะมูลฝอยในแหล่งท่องเที่ยวที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันแก้ไขปัญหา จึงได้ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกันหาแนวทางการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยในแหล่งท่องเที่ยวเพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวต้นแบบที่ดีในการจัดการขยะมูลฝอย โดยได้คัดเลือกพื้นที่นำร่อง ดำเนินการในปี 2560-61 คือ เกาะพีพี เกาะเสม็ด เมืองพัทยาและเกาะล้าน จังหวัดเพชรบูรณ์ และอุทยานแห่งชาตินำร่อง 10 แห่ง ได้แก่ 1) อุทยานแห่งชาติเขาเเหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด 2) อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี 3) อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 4) อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 5) อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี 6) อุทยานแห่งชาติเอราวัณ 7) อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 8) อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง 9) อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา และอุทยานแห่งชาติตะรุเตา 

ทั้งนี้ คพ. ขอความร่วมมือให้นักเที่ยวปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานที่ท่องเที่ยวหรืออุทยานการท่องเที่ยวอย่าเคร่งครัด โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติทั่วประเทศ หากนำอาหารหรือสิ่งใดเข้าไปในพื้นที่ให้นำออกมาทิ้งตามจุดที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ให้ เพื่อรักษาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้คงสวยงามต่อไป นางสุณีกล่าว