ไม่พบผลการค้นหา
ห่มสไบไปศึกษาประวัติศาสตร์ผ่านเทคโนโลยีเสมือนจริงที่ ‘ณ สัทธา อุทยานไทย’ แหล่งท่องเที่ยวประจำจังหวัดราชบุรี ซึ่งเกิดจากการแปลงโฉม ‘อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม’ เมื่อ 10 ปีก่อน ให้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมร่วมสมัย ทว่าจิตวิญญาณเบื้องลึกคงเดิมไม่เปลี่ยน

หากจำต้องเล่าความเป็นมาของ ‘ณ สัทธา อุทยานไทย’ คงต้องย้อนเวลากลับไปในปี 2549 ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีใช้ชื่อว่า ‘อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม’ และนับเป็นพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งขนาดใหญ่สุดในประเทศไทย โดยจัดแสดงบนพื้นที่กว่า 42 ไร่ ของอำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี

ทว่าหลังจากเปิดบริการต้อนรับนักท่องเที่ยว และผู้สนใจใฝ่รู้มายาวนานร่วม 10 ปี เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2559 ทางผู้บริหารตัดสินใจปิดตัวอุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยามลงชั่วคราว เพื่อทำการบูรณะครั้งใหญ่ ก่อนกลับมาพร้อมจิตวิญญาณเดิมเมื่อ 3 เดือนก่อน

ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้ ‘ณ สัทธา อุทยานไทย’ ในปี 2561 ถูกพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมอันโดดเด่น ภายในอัดแน่นด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับความศรัทธา ความเชื่อ และรากเหง้าความเป็นไทย ขณะเดียวกันยังนำเทคโนโลยีร่วมสมัยมาช่วยสร้างความสนุกสนาน และความเข้าใจให้กับผู้ชม เพื่อให้ตรงตามคอนเซ็ปต์ “เพราะสาระความรู้ไม่ได้มีแค่ในห้องเรียน เพราะความสุขสงบไม่ได้มีเพียงในวัดวาอาราม”


Untitled-1_0009__MG_0047.jpgUntitled-1_0002__MG_9826.jpgUntitled-1_0001__MG_9829.jpg

สิ่งที่น่าจับตามองคือ การนำเทคโนโลยีมาเชื่อมประวัติศาสตร์ไทยในอดีต โดยผู้เข้าชมควรดาวน์โหลดแอปฯ ‘NaSatta’ ลงสมาร์ทโฟนก่อนออกเดินท่องเที่ยว เพราะระหว่างทางเต็มเปี่ยมด้วยสาระบันเทิงน่าตื่นตา บอกเล่าเรื่องราวนานาผ่านแอปฯ พร้อมบริการอินเตอร์เน็ตไร้สายฟรีทั่วบริเวณ และยังสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมเก็บสะสม ‘น้องปิติ’ ซึ่งเป็นมาสคอตประจำอุทยาน เพื่อรับของที่ระลึกติดมือกลับบ้านได้ด้วย

หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว แรกพบเป็น ‘ห้องแพรพรรณ’ ที่ชวนทุกคนมาแต่งไทยไปเที่ยวด้วยราคาเริ่มต้น 250 บาท สามารถเลือกแบบผ้านุ่มหน้านาง 3 จีบจับคู่กับสไบสไตล์โบราณ พร้อมพกร่มกระดาษภูมิปัญญาท้องถิ่นล้านนา สวยแจ่มราวกับแม่หญิงหลุดออกมาจากวรรณคดี

ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่เขียวชอุ่มปรากฎภาพลาน ‘มหาราชกษัตรา’ ที่จัดแสดงประติมากรรมพร้อมพระราชประวัติของ 3 พระมหากษัตริย์ไทยคือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพียงแค่สแกนสัญลักษณ์สี่เหลี่ยมคิวอาร์ โค้ด ก็เชื่อมคนดูสู่สารพัดความรู้น่าสนใจให้ความรู้สึกเหมือนมาทัศนศึกษา

จากนั้น เดินผ่านสายลมเย็นๆ พร้อมอ่านข้อความแง่คิดดีๆ ระหว่างทาง ก่อนมาหยุดอยู่หน้าอาคาร ‘ณ สัทธานุสรณ์’ แล้วแง้มประตูดูหุ่นไฟเบอร์กลาส โดยบนชั้น 2 จัดแสดงพระจริยาวัตรของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ส่วนชั้น 1 เป็นการเรียนรู้จังหวะชีวิต จิตวิญญาณ และเหตุการณ์สำคัญๆ ของปูชนียบุคคลแบบอย่าง 12 ท่าน ผ่านเทคโนโลยีสร้างภาพเสมือนจริง (Augmented Reality) อาทิ การจำลองห้องทำงานของ ดร.ป๋วย อั่งภากรณ์ ขณะดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องราวของ สืบ นาคะเสถียร ตำนานนักอนุรักษ์คนสำคัญของประเทศไทย และมหาบุรุษแดนมังกร เหมา เจ๋อ ตุง ผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน


101.JPGUntitled-1_0008__MG_9863.jpgUntitled-1_0005__MG_9889.jpgUntitled-1_0006__MG_9904.jpg

ต่อด้วยไฮไลท์ต้องห้ามพลาดบริเวณ ‘ณ สัทธาปฏิมา’ ที่นำเสนอผลงานประติมากรรมพระพุทธรูป 3 สมัย ได้แก่ สุโขทัย เชียงแสน และอู่ทองอยุธยา โดยเปลี่ยนโบสถ์เป็นห้องมืดคล้ายกับกำลังจัดฉายภาพยนตร์ และอาศัยระบบดิจิทัลโปรเจคชันแมปปิ้ง (Projection Mapping) ยิงแสงเข้าไปบนฐานพระขนาดเท่าของจริง จนออกมาเสมือนเป็นสิ่งมีชีวิต พร้อมระบบเสียงดอลบี้รอบทิศทาง เพืื่อบอกเล่าความเป็นมาผ่านความงดงามของพระพุทธรูป ซึ่งแตกต่างกันไปตามยุคสมัยด้วยอิทธิพลทางศาสนา สังคม และวัฒนธรรม

ส่วนอีกหนึ่งไฮไลต์เป็นการพาตัวเองมุดเข้า ‘ถ้ำพุทธชาดก’ ไปฟังประวัติขององคุลีมาลมหาโจรกลับใจ ซึ่งนับเป็นบุคคลสำคัญของพระพุทธศาสนา โดยเพิ่มอรรถรสด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีแสง สี เสียง และหุ่นจำลองสุดตระการตา พร้อมสอดแทรกประเด็นความศรัทธา ความรู้ และคติธรรมอย่่างลงตัว

แน่นอนว่า เดินมาครึ่งทางย่อมเกิดอาการเหนื่อยเมื่อยล้ากันบ้าง ดังนั้น การแวะเช็กอินจิบน้ำโซดาโบราณเย็นๆ ณ บ้านน้ำสมุนไพรก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกดีๆ ก่อนก้าวสู่ ‘อริยสัทธา’ พื้นที่จัดแสดงหุ่นพระอริยสงฆ์น่าเลื่อมใสในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งประดิษฐานอยู่บนกุฏิเรือนไม้ และหอสวดมนต์

Untitled-1_0000__MG_0010.jpgUntitled-1_0003__MG_0054.jpg

ระหว่างเดินข้ามสะพานไปฝั่ง ‘สัทธาถิ่นเรือนไทย’ อย่าลืมทักทายปู่เย็นเฒ่าทระนง หุ่นไฟเบอร์กลาสชายชราตัวงองุ่ม ศรีษะโพกผ้าสะระบั่น ยืนยันความเป็นมุสลิม ที่นั่งตกปลาอยู่ริมแม่น้ำเพชรบุรี ต่อด้วยการไปสัมผัสวิถีชีวิตของคนไทยทุกภูมิภาคผ่านบ้านทรงไทยจำลองตามลักษณะทางสถาปัตยกรรม โดยบนเรือนจัดแสดงข้างของเครื่องใช้ อาหารการกิน และศิลปวัฒนธรรม พร้อมกิจกรรมพิเศษที่ช่วยให้เรือนแต่ละหลังมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

ก่อนกลับบ้านต้องผ่าน ‘ลานอวโลสัทธา’ แสดงประติมากรรมพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ปางมหาราชลีลา ความสูง 3.5 เมตร จำลองศิลปะจากราชวงส์ซ้อง คอยช่วยเหลือสรรพสัตว์ที่ติดอยู่ในห้วงความทุกข์

‘ณ สัทธา อุทยานไทย’ เปิดบริการวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.30 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น.