พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมือง ที่ประกาศจะเดินทางมาร่วมรดน้ำสงกรานต์ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ทุกคนทราบอยู่แล้วว่านายเอกชัย เป็นนักกิจกรรมทางการเมือง จึงอยากให้มองสองด้านว่าการไปรบกวนคนอื่นเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนผู้อื่นด้วยหรือไม่ รวมถึงการสร้างผลกระทบต่อการจราจรและผลกระทบการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งการสนับสนุนให้ทำกิจกรรมดังกล่าวถือว่าไม่สมควรในเวลานี้
ขณะเดียวกัน หากมองว่าเจ้าหน้าที่กระทำรุนแรงเกินไป ตนเองก็ต้องขอโทษ แต่มีการดิ้นไปมาแล้วจะให้เจ้าหน้าที่ทำอย่างไร วันหน้าอาจต้องให้สื่อช่วยทำให้หยุดแล้วให้เจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายถ่ายภาพบ้าง จึงต้องหาวิธีการที่เหมาะสมต่อไป
เล็งกำหนด 'เจาะไอร้อง' นำร่องพื้นที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการประกาศพื้นที่ปลอดภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่จะต้องกำหนดภายในสิ้นเดือนนี้ เพื่อหาข้อยุติความรุนแรง ว่า ทุกคนอยากให้งานนี้สำเร็จ แต่มียุทธศาสตร์หลายตัวที่เกี่ยวกับความมั่นคง ทั้งการพัฒนา การพูดคุยสันติสุข ซึ่งมาเลเซียจะมีหน้าที่อำนวยความสะดวกในเรื่องสถานที่พูดคุย แต่ไม่มีส่วนเข้าร่วมในการเจรจา เพราะเป็นเรื่องของฝ่ายไทยและฝ่ายเห็นต่างที่ต้องเจรจากัน
คาดว่าจะนำร่องในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ก่อน หากฝ่ายเห็นต่างให้ความร่วมมือจะช่วยลดความรุนแรงได้ แต่จะมีกลุ่มเห็นต่างเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ส่วนตัวไม่รู้ ทั้งนี้ขอให้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการให้ความร่วมมือตรวจตรายานพาหนะ และตั้งด่านเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ย้ำต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย
ยังไม่ออกคำสั่ง ม.44 อุ้มทีวีดิจิทัล
ส่วนความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประกอบผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลและระบบโทรคมนาคม นายกฯ ระบุว่าเรื่องนี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของ กสทช.ว่าจะช่วยเหลือทีวีดิจิทัลหรือไม่ เพราะเกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย รวมถึงด้านเศรษฐกิจด้วย ส่วนในด้านเศรษฐกิจขณะนี้ดีขึ้น รวมถึงการลงทุนและโครงสร้างพื้นฐานก็ดีขึ้น ขอให้ทุกคนนำพาประเทศไปข้างหน้าร่วมกัน ย้ำว่ารัฐบาลนี้เป็นคนคิด ทั้งรื้อนโยบายเก่าและคิดใหม่ โดยเน้นความต้องการของประชาชนเป็นหลัก ส่วนปัญหาความขัดแย้งก็ต้องก้าวข้ามไปให้ได้
ขณะที่กรณีตัวแทนสหภาพยุโรป (อียู) ตรวจสอบการแก้ไขปัญหาการประมงผิดกฎหมาย หรือ ไอยูยู ของรัฐบาลว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงายเป็นลายลักษณ์อักษร แต่เบื้องต้นเชื่อว่าทุกอย่างมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และขณะนี้ยังมีเวลาอีก 3 เดือน ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องทำเรื่องต่างๆ ที่ยังคงมีปัญหาอยู่บ้างให้เรียบร้อย ซึ่งมีพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ที่รับผิดชอบเรื่องนี้อยู่แล้ว และหลังจากนี้จะต้องรอผลการประเมินจากทางอียูอีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
