นายไมตรีปาละ สิริเสนา ประธานาธิบดีศรีลังกา สั่งให้รัฐบาลยกเลิกคำสั่งที่อนุญาตให้ผู้หญิงซื้อแอลกอฮอล์ ส่งผลให้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า ไม่มีความพยายามอย่างจริงจังในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ทั้งที่ผ่านมา เขาพูดเสมอว่า ต้องการเห็นผู้หญิงเข้ามามีบทบาททางการเมืองมากขึ้น

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลศรีลังกาออกมาประกาศว่า จะแก้ไขกฎหมายอนุญาตให้ผู้หญิงตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไปสามารถซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ และอนุญาตให้ผู้หญิงทำงานในบาร์ได้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตจากญาติที่เป็นผู้ชาย ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้มาตั้งแต่ปี 1955 โดยให้เหตุผลว่า กฎหมายที่มีอยู่เป็นการเลือกปฏิบัติกับผู้หญิง แม้ช่วงหลังมานี้จะไม่ค่อยมีการบังคับใช้กฎหมายนี้แล้ว นอกจากนี้ รัฐบาลยังวางแผนว่า จะขยายเวลาการอนุญาตขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จาก 09.00 -21.00 น. เป็น 08.00 - 22.00 น.

การที่นายสิริเสนาขัดขวางการแก้ไขกฎหมายนี้เป็นปฏิกิริยาที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้แล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาเขารณรงค์ต่อต้านการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และวิพากษ์วิจารณ์ว่า ปริมาณการดื่มแอลกอฮอลของผู้หญิงศรีลังกาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ พระสงฆ์ชื่อดังของศรีลังกาต่างก็ออกมาต่อต้านการแก้ไขกฎหมายของรัฐบาล โดยให้เหตุผลว่า การให้ผู้หญิงซื้อแอลกอฮอล์จะทำให้ผู้หญิงติดแอลกอฮอล์กันมากขึ้น ถือเป็นการทำลายวัฒนธรรมครอบครัวของศรีลังกา ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์บางส่วนก็มองว่า การขัดขวางการปฏิรูปกฎหมายของรัฐบาลครั้งนี้อาจแสดงให้เห็นความแตกแยกกันในพรรคร่วมรัฐบาล

นายไมตรีปาละ สิริเสนา ประธานาธิบดีศรีลังกา (กลาง) และนายรานิล วิกรมสิงเห นายกรัฐมนตรีศรีลังกา (ขวา)

ผู้สนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศของศรีลังกาต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า กฎหมายห้ามผู้หญิงซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นกฎหมายที่เหยียดเพศก็จริง แต่ก็ยังไม่เป็นปัญหาเท่ากับโครงสร้างการเมืองและสังคมของศรีลังกาที่ยังเหยียดเพศหญิงอยู่ ทำให้ผู้ชายที่อยู่ในอำนาจมีหลายช่องทางในการขัดขวางการแก้ไขกฎหมายเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ และตัดสินใจเรื่องต่างๆ แทนผู้หญิง เพราะคิดว่าผู้หญิงไม่มีวิจารณญาณมากพอ

จากข้อมูลล่าสุดปี 2014 ขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุว่า ในขณะที่ผู้ชายศรีลังกาที่ไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์มีอยู่ร้อยละ 56.9 ผู้หญิงศรีลังกากว่าร้อยละ 80.5 ไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์เลย และผู้หญิงอายุมากกว่า 15 ปีที่ดื่มหนักก็มีน้อยกว่าร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับผู้ชายที่มีประมาณร้อยละ 0.8 เนื่องจากผู้หญิงส่วนใหญ่ในศรีลังกาเองก็มองว่า การดื่มแอลกอฮอล์เป็นเรื่องผิดจารีตประเพณี