วานนี้ (4 ต.ค.) ศาลจังหวัดจันทบุรี อ่านคำพิพากษาคดีที่รถตู้โดยสารสายจันทบุรี - กรุงเทพฯ ทะเบียน 15-1352 กรุงเทพมหานคร ที่มีผู้โดยสารเต็มคันรถ 15 คน ขับจาก จ.จันทบุรี มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ชนประสานงากับรถกระบะ ทะเบียน 1ฒณ 2483 กรุงเทพมหานคร มีคนขับเป็นคนไทยและแรงงานชาวกัมพูชารวม 12 คน เกิดไฟลุกท่วมทั้ง 2 คัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 25 ราย มีผู้รอดชีวิต 2 คน โดยเหตุเกิดบนถนนสาย 344 บ้านเนินหนองขนุน หมู่ 1 ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2560 

โดยคดีนี้มีมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเป็นผู้ยื่นฟ้องคดีแพ่งต่อศาลจังหวัดจันทบุรี ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 2560 ให้ฟ้อง หจก.พลอยหยก เป็นจำเลยที่ 1 นางวาสนา จันทร์เอี่ยม หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.พลอยหยก เป็นจำเลยที่ 2 และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ผู้ให้สัมปทาน เป็นจำเลยที่ 3 โดยเรียกร้องเงินชดเชยความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งทางครอบครัวเหยื่อรถตู้ทั้ง 14 ราย พร้อมตัวแทนมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเดินทางมารับฟังคำตัดสิน

ผู้พิพากษาอ่านคำพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1 และ 2 เนื่องจากเห็นว่าไม่ใช่นายจ้าง และลูกจ้างกันโดยตรงกับคนขับรถตู้ โดยจำเลยที่ 3 และจำเลยร่วมคือทายาทของนายสุมนต์ เอี่ยมสมบัติ คนขับรถตู้ที่เสียชีวิต ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย เป็นค่าจัดงานศพ ตั้งแต่รายละ 1.8 - 2 แสนบาท ค่าขาดงานตั้งแต่ 3-5 แสนบาทต่อราย และค่าเลี้ยงดูตั้งแต่รายละ 4-7 แสนบาท นอกจากนี้ศาลมีคำสั่งให้จำเลยจ่ายค่าเสียหายเชิงลงโทษอีกรายละ 5 แสนบาท เพราะเห็นว่าอุบัติเหตุครั้งนั้นเกิดขึ้นจากความประมาทของคนขับด้วยรวมเป็นเงินกว่า 26 ล้านบาท

ทั้งนี้นิติกรและทนายความของ บขส. ไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษา ที่ต้องเป็นผู้จ่ายค่าชดเชยกับเหยื่อทั้งหมด จึงจะยื่นอุทธรณ์และขอให้ศาลแพ่งมีคำสั่งให้ หจก.พลอยหยก ร่วมรับผิดชอบค่าเสียหายด้วย ตรงกับที่ทนายความมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ที่เห็นว่าจำเลยที่ 1 และ 2 ควรมีส่วนร่วมรับผิดชอบ ไม่ใช่ให้ บขส. รับผิดชอบเพียงผู้เดียว จึงจะยื่นอุทธรณ์ต่อ สำหรับการชดเชยครอบครัวเหยื่อรายละ 500,000 บาทของ บขส. นั้นยังไม่เพียงพอ ภาคเอกชนต้องร่วมรับผิดชอบด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• รถตู้โดยสารชนกระบะที่ชลบุรี เสียชีวิต 25 เจ็บ 2
• ตรวจเอกลักษณ์บุคคล 25 ศพรถตู้ชนกระบะ
• ตรวจดีเอ็นเอ 25 ศพไฟไหม้ เหตุรถตู้ชนกระบะ
• ญาติ 25 ศพ ทยอยรับศพ ยืนยันแล้ว 8 ราย