วันที่ 23 พ.ค. ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดตั้งรัฐบาลว่า ขณะนี้ชัดเจนในระดับหนึ่งแล้วว่ามี 8 พรรคการเมืองที่กำลังร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ก็จะต้องทำหน้าที่ต่อให้สมบูรณ์แบบมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล แต่หากผลปรากฎว่าพรรคก้าวไกลไม่สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ 

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคที่ได้รับความไว้วางใจมาเป็นอันดับที่ 2 จะต้องจัดตั้งรัฐบาลแทนพรรคประชาธิปัตย์จะยอมจับมือร่วมกันหรือไม่ จุรินทร์ ย้ำว่า ขณะนี้ยังไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้น ดังนั้นต้องรอให้พรรคก้าวไกลทำหน้าที่จัดตั้งรัฐบาลไปก่อน จึงหวังให้เขาทำให้ได้สำเร็จในเร็ววัน แต่หากพรรคก้าวไกลเสนอร่างแก้ไข ม.112 เข้าสภา เรื่องนี้ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังมั่นคงในจุดยืนเดิม จึงขอไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม

ส่วนสำหรับการยกมือโหวตนายกรัฐมนตรีในสภา เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของพรรคชุดใหม่ที่จะเข้าไปทำหน้าที่ และพิจารณา ภายหลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้การรับรองแล้ว แต่พรรคจะให้สิทธิทุกคนได้ฟรีโหวตหรือไม่ อันนี้คงยังตอบไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของอนาคตที่เขาจะต้องไปพิจารณากันตามหลักการของพรรค

ส่วนสำหรับในวันพรุ่งนี้ที่จะมีการประชุมรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรค จุรินทร์ กล่าวว่า ตนจะส่งไม้ต่อให้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ดังนั้นก็ต้องไปพูดคุยกันในวันพรุ่งนี้ว่าจะทำอย่างไรให้พรรคมีประสิทธิภาพสูงสุด แต่จะวางตัวใครขึ้นมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแทนนั้น ในส่วนนี้ เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรค จะเป็นผู้พิจารณาร่วมกับรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรค จึงขอไม่ไปก้าวล่วงใดๆ แต่ยืนยันว่าทุกคนจะยังคงทำหน้าที่รักษาการต่อไปให้ดีที่สุดจนกว่าจะมีคณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน ส่วนตัวจึงมองว่าเราควรจะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาขับเคลื่อนพรรคมากยิ่งขึ้น