นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ข้อเท็จจริงประการหนึ่งที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 จนถึงปัจจุบัน นั่นคือพรรคการเมืองและนักการเมืองถูกผู้มีอำนาจกระทำมาโดยตลอด ล่าสุดเมื่อมีความชัดแล้วว่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 แต่ก็ยังมีการกระทำดังกล่าวปรากฏให้เห็นอยู่อีก
โดยเฉพาะในกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. ได้เสนอต่อที่ประชุม คสช.กับพรรคการเมือง และแม่น้ำ 5 สาย ที่สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดี เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ว่าไม่ควรใส่ชื่อและโลโก้ในบัตรเลือกตั้ง
ดังนั้นหากกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจริงก็สะท้อนให้เห็นถึงการตั้งกติกาที่เอาเปรียบพรรคการเมือง สร้างความสับสนให้กับประชาชน และเป็นการกระทำที่ผิดหลักการสากลทั่วไป เพราะประเทศส่วนใหญ่ในโลกจะออกแบบบัตรเลือกตั้งให้ผู้มาใช้สิทธิเข้าใจง่าย คนอ่านหนังสือไม่ได้ก็จะมีโลโก้ที่เป็นภาพชัดๆให้สังเกตแทน เพื่อที่จะได้เลือกนักการเมืองและพรรคการเมืองที่ต้องการเข้าไปบริหารประเทศ
เพื่อเป็นการส่งเสริมระบบพรรคการเมืองให้เข้มแข็งจนเป็นสถาบันพัฒนาประเทศชาติ แต่ประเทศไทยกลับจะทำให้คนสับสน ชื่อพรรคกับผู้แทนแบ่งเขตก็มั่วไปหมด ปรับให้เป็นเบอร์เดียวกัน และสุดท้ายก็จะเอามาอ้างเรื่องคะแนนเสียง กาบัตรเสีย กาผิดพรรค
"ที่สำคัญการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญตามที่นักการเมือง นักวิชาการ ตลอดจนนักกฎหมายหลายๆท่านได้ตั้งข้อสังเกตไว้หรือไม่ และการกระทำเช่นนี้บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่ากลัวจะแพ้การเลือกตั้ง ถึงขนาดต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อชิงความได้เปรียบนักการเมืองและพรรคการเมืองต่างๆ" โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว
นางลดาวัลลิ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาผู้มีอำนาจตั้งกฎ กติกา ออกคำสั่ง ใช้อำนาจผ่านกลไกต่างๆเพื่อทำลายนักการเมืองและพรรคการเมืองมาโดยตลอด แม้แต่ในการเลือกตั้งที่จะเป็นเหมือนการเปิดประตูเข้าสู่เส้นทางประชาธิปไตยภายใต้ความต้องการของประชาชน แต่นักการเมืองและพรรคการเมืองที่เชื่อมโยงกับประชาชนก็ยังถูกขัดขวาง
“ ด้วยเหตุดังกล่าวจึงอยากเรียกร้องให้ กกต. ในฐานะผู้ดูแลการเลือกตั้ง ควรทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา และยืนอยู่บนหลักการ เพราะชื่อพรรคหรือโลโก้ของพรรคเป็นสิ่งที่ถือว่าเป็นสาระสำคัญในการกาบัตรเพื่อใช้สิทธิของประชาชน หากบัตรเลือกตั้งที่ออกมาไม่สมบูรณ์ก็จะส่งผลต่อการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นได้ ” นางลดาวัลลิ์ กล่าว
ด้านนายสมคิด เชื้อคง อดีตส.ส.พรรเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า วันนี้เราเริ่มได้เห็นกลุ่มคนที่จะมาแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ลงมาสร้างความย้อนแย้งคำพูดตัวเอง เราได้เห็นคนที่ให้เพลง เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน กลายเป็นคนที่ไม่รักษาสัญญา และ ขออยู่ต่อนานๆ
โดยหน้ากากของคนที่อ้างว่าเป็นกลาง กำลังจะหลุดร่อน พากันตั้งพรรคการเมืองเอง เขียนกฎกติกาเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มตนเอง คิดและทำทุกวิถีทางที่จะเอาเปรียบกลุ่มการเมืองอื่น โดยที่ไม่อายต่อฟ้าดิน ผมจะคอยดูว่า กกต.ที่อ้างว่าเป็นองค์กรอิสระจะทำตามคำพูดของคนมีอำนาจหรือไม่
ดังนั้นผมไม่แคร์ว่า กกต.จะใส่โลโก้พรรคในบัตร์เลือกตั้งหรือไม่ ไม่คิดจะร้องขอว่าต้องมีหรือไม่มี ป่วยการที่จะพูดถึง เพราะบ้านเมืองนี้ไร้กติกา มีแต่กติกู กูอยากได้อะไรต้องได้อย่างนั้นกลุ่มคนมีอำนาจเหล่านี้ เหมือนมะเร็งร้ายที่อยู่ในร่างกายของผม ผมก็ต้องต่อสู้กับโรคร้ายเพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อ หายาทุกชนิดมาสู้กับมัน จนกว่าผมจะตายหรือโรคร้ายจะหายไปจากเราเสียงปฏิรูปประเทศช่างแผ่วบาง เสียงคำรามของพวกอยากมีอำนาจต่อดังขึ้นทุกวัน แต่พวกผมไม่หวาดหวั่น พร้อมที่จะต่อสู้กับกติกูที่เขาสร้างขึ้นใครไม่รู้กล่าวไว้ว่า ไม่เคยกลัวคนเก่ง แต่กลัวคนหน้าด้าน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: