ไม่พบผลการค้นหา
ภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม ประกาศเจตนารมณ์ร่วมมือจัดการปัญหาขยะและการใช้พลาสติกอย่างยั่งยืน หลังพบว่าประเทศไทยติดอันดับ 6 ใน 192 ประเทศที่มีขยะในทะเลมากที่สุดในโลก

กลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาชิกองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) หน่วยงานภาคเอกชน และมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ร่วมมือริเริ่ม "โครงการความร่วมมือภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม เพื่อจัดการพลาสติกและขยะอย่างยั่งยืน" ซึ่งภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนได้แสดงเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการขับเคลื่อนโครงการไปด้วยกันเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี เพื่อจัดการปัญหาขยะและส่งเสริมการใช้พลาสติกอย่างยั่งยืน ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy โดยมีเป้าหมายเพื่อลดปริมาณขยะพลาสติกในทะเลไทยลงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ภายในปี พ.ศ. 2570 และมีพันธมิตรเข้าร่วมโครงการทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และ ภาคประชาสังคม รวมทั้งสิ้นกว่า 20 หน่วยงาน 

โดยโครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้บรรลุเป้าหมายในการลดปริมาณขยะพลาสติกในทะเลไทยลงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ภายในปี พ.ศ. 2570 และส่งเสริมให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สำหรับพลาสติก ผ่านการส่งเสริมการพัฒนามาตรฐานธุรกิจรีไซเคิล การส่งเสริมผู้ประกอบการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับการใช้พลาสติกอย่างยั่งยืน ครอบคลุมไปถึงการใช้หลักการ 3Rs (Reduce, Reuse, Recycle) และการให้ความรู้แก่ผู้บริโภคและประชาชนในการคัดแยกขยะและจัดการขยะตั้งแต่ต้นทางที่ถูกวิธี เพื่อสร้างวัฒนธรรมและเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค การสร้างโมเดลเมืองสะอาดในพื้นที่นำร่องกรุงเทพมหานคร เขตคลองเตย และ จังหวัดระยอง และการจัดทำฐานข้อมูลพลาสติกในประเทศไทย (Thailand Plastic Material Flow Database) ให้เป็นเครื่องชี้วัดผลสัมฤทธิ์ของโครงการและเป็นข้อมูลพลาสติกของประเทศไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล 

นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการฯ นี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของการจัดการปัญหาขยะและการใช้พลาสติกอย่างถูกต้องในประเทศไทย เพราะเป็นครั้งแรกที่ภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม ได้ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ โดยได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งเป็นสมาชิกภายใต้กลุ่มพลาสติกที่มีผู้ผลิตกว่า 177 บริษัท ซึ่งจะมีบทบาทในการสนับสนุนการพัฒนาและปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีพลาสติกที่จะช่วยให้ใช้พลาสติกในการผลิตน้อยลงหรือนำกลับมาใช้ซ้ำและรีไซเคิลได้มากขึ้น เพื่อส่งเสริมให้เกิด Circular Economy ได้จริงๆ" 

ด้าน นางสุวรรณา จุ่งรุ่งเรือง รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า "ปัจจุบัน กรุงเทพมหานคร สามารถจัดเก็บขยะประเภทถุงพลาสติกได้วันละประมาณ 80 ล้านชิ้น โดยเฉลี่ยประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ใช้ถุงพลาสติกคนละ 8 ชิ้นต่อวัน ซึ่งปัญหาที่พบคือ หลังจากที่ประชาชนใช้ถุงพลาสติกแล้วจะทิ้งทันที ปัจจุบันการฝังกลบมีค่าใช้จ่ายตันละ 700 บาทและพื้นที่ใช้สำหรับการฝังกลบกำลังจะไม่เพียงพอ จึงถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายจะต้องมาร่วมมือกันเพื่อลดปริมาณขยะ ทั้งการลดปริมาณการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งและจัดการคัดแยกอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อนำพลาสติกกลับไปใช้ได้หมดไม่ต้องเหลือทิ้งในสิ่งแวดล้อม"

ซึ่งหน่วยงานที่ร่วมมือกันในครั้งนี้ทั้งหมดหวังว่า การดำเนินโครงการนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อให้การแก้ไขปัญหาขยะและการใช้พลาสติกอย่างยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ประเทศไทยติดอันดับ 6 ใน 192 ประเทศที่มีขยะในทะเลมากที่สุดในโลก ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษและกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เผยว่าประเทศไทย มี 23 จังหวัดชายฝั่งทะเล ซึ่งมีปริมาณขยะประมาณ 11.47 ล้านตัน โดยที่ขยะปริมาณกว่าร้อยละ 14 (หรือประมาณ 1.55 ล้านตัน) มีขยะพลาสติกอยู่ประมาณ 340,000 ตัน ร้อยละ 10-15 มีโอกาสปนเปื้อนลงสู่ทะเลได้ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อระบบนิเวศน์ทางทะเลโดยรวมและสัตว์ทะเล