ไม่พบผลการค้นหา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุหากไม่มีพายุลูกใหม่เข้ามาสถานการณ์น้ำท่วมทั่วประเทศก็จะดีขึ้นเป็นลำดับ

พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ ที่ขณะนี้น้ำอยู่ในจังหวัดเพชรบุรีเล็กน้อยทางด้านเหนือของเขื่อนเพชร การระบายน้ำ  หากไม่มีพายุเข้ามา ก็ไม่น่ากังวล กาญจนบุรีมีการปล่อยน้ำยังทำได้อย่างต่อเนื่อง พื้นที่น้ำโขง เชียงใหม่เชียงราย มีพื้นที่ลุ่มต่ำอยู่บ้าง ซึ่งหากไม่มีพายุลูกใหม่เข้ามาสถานการณ์ก็จะดีขึ้นเป็นลำดับ โดยตนเองได้รายงานรายละเอียดต่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแล้ว

จ.มุกดาหาร ระดับน้ำโขงเกินวิกฤตรอบ 2 ล่าสุดอยู่ที่ 12.78 เมตร

ระดับน้ำในแม่น้ำโขงยังคงมีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นรอบที่ 2 ล่าสุดน้ำโขงมีระดับสูงเกินระดับวิกฤต วัดที่ศูนย์สำรวจอุทกวิทยาที่ 3 มุกดาหาร โดยระดับเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เมื่อ07.00 น. ล่าสุดอยู่ที่ 12.78 เมตร เกินระดับวิกฤตแล้ว 28 เซนติเ��ตร ส่งผลให้น้ำโขงเริ่มไหลเอ่อเข้าที่ลุ่มและลำห้วยสาขา โดยเฉพาะ อำเภอหว้านใหญ่ ซึ่งเป็นอำเภอแรกที่รับมวลน้ำจากทางตอนเหนือ ก่อนที่มวลน้ำไหลผ่านตัวจังหวัดมุกดาหาร รวมไปถึงอำเภอเมืองมุกดาหาร บริเวณบ้านโคกสุวรรณ บ้านนาโปน้อย เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร น้ำจากลำห้วยมุกได้เอ่อเข้าท่วมไร่นา สวนกล้วย สวนผัก บ่อปลา และสัตว์เลี้ยงเจ้าของได้นำมาเลี้ยงบนที่สูง เนื่องจากน้ำได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ดังกล่าว ส่วนอำเภอดอนตาล น้ำได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านแล้วบางส่วน



p 1 (1).jpg

ด้าน นายไพฑูรย์ รักษ์ประเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้กำชับให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นายอำเภอ รวมถึงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เร่งสำรวจข้อมูลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำเหนือไหลบ่าและน้ำโขงล้นตลิ่ง เพื่อให้การช่วยเหลือพร้อมให้เฝ้าติดตามสถานการณ์ระดับน้ำโขงอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะหมู่บ้านที่ติดริมฝั่งแม่น้ำโขง และติดลำห้วยสาขา ให้ทำการอพยพหรือขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง หากมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนให้เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน หากไม่สามารถช่วยเหลือได้ให้ประสานมาทางจังหวัด เพื่อที่จะได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หรือประสานหน่วยงานที่มีศักยภาพและความพร้อมออกให้การช่วยเหลือต่อไป

ปภ.10 พร้อมรับมือน้ำป่าไหลหลากดินถล่มในภาคเหนือ ติดตั้งเครื่องมือวัด 287 จุด

นายคมสัน สุวรรณอัมพา ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 10 ลำปาง แจ้งว่า ทางสำนักงาน ปภ.เขต 10 ลำปางซึ่งรับผิดชอบในพื้นที่ 4 จังหวัดคือ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ได้ ติดตามภาวะอากาศ ปริมาณน้ำฝนสะสม รวมไปถึง สถานการณ์น้ำท่าต่าง ในพื้นที่ และปัจจัย ในพื้นที่ ของความเสี่ยงภัยต่างในเชิงพื้นที่ และ ยังพบข้อมูลว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายจังหวัด ทางภาคเหนือนั้น ยังคง มีฝนตกต่อเนื่อง  โดยจากฝนที่ตก และยังมีการ อุ้มน้ำของดินต่ำลง หากมีปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้นในพื้นที่ลาดเชิงเขา อาจทําให้มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มได้ 


Sequence 01.Still004.jpg

โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 ลำปาง จะได้ทำการติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำฝนอัตโนมัติ สำหรับเฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 รวม 287 จุด ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ 253 จุด จังหวัดลำปาง 15 จุด จังหวัดลำพูน 10 จุด และจังหวัดแม่ฮ่องสอน 9 จุด ทั้งนี้ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติหรือ NECTEC เป็นหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบในการติดตั้ง พัฒนาปรับปรุงระบบเตือนภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก

อย่างไรก็ตาม ทาง ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 10 ลําปาง ได้จัดตั้งกองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต พร้อมกําลังเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือและเครื่องจักรกล ให้สามารถออกปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนภารกิจของจังหวัดหากได้รับการร้องขอ และจัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์สาธารณภัยตลอด 24 ชั่วโมง


อุตฯ พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้าไทยยังมีฝนชุกหนาแน่น

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์สภาพอากาศระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม - 3 กันยายน ระบุว่าบริเวณประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตลอดช่วง

ข้อควรระวัง   ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมต่อเนื่อง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม ไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ตลอดช่วง

ทั้งนี้ในช่วงวันที่ 28-31 ส.ค. 61 ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านประเทศเมียนมา ประเทศลาวและประเทศเวียดนามตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีปริมาณฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 1 – 3 ก.ย. 61 ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศเมียนมา และประเทศลาวเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ยมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนต่อเนื่อง และฝนตกหนักบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังปานกลางตลอดช่วง