นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการบริหารงาน บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือ แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ยกระดับการให้บริการประชาชน ด้วยการเร่งรัดการจัดซื้อขบวนรถใหม่ จำนวน 7 ขบวน วงเงินกว่า 4.4 พันล้านบาท ให้ได้รถมาใช้งานภายใน 1-2 ปีนี้ เพื่อแก้ปัญหาจำนวนรถไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้ใช้บริการ​ โดยไม่ต้องรอโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เพราะคาดว่าโครงการดังกล่าวจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 1 ปี 2561 และต้องใช้เวลาอีกหลายปี ในการก่อสร้าง   

นอกจากนี้ จะใช้งบกว่า 100 ล้านบาท ปรับปรุงติดเก้าอี้ ตู้ขนกระเป๋าสัมภาระ จำนวน 4 ตู้ จะเพิ่มความจุในการรองรับผู้โดยสารได้อีก 11,000 คน จากปัจจุบัน 72,000 คนต่อวัน เป็น 83,000 คนต่อวัน 

นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยคมนาคม ยังแนะให้ แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ปรับตารางเดินรถเที่ยวแรก ในช่วงเช้าเร็วขึ้น 30 นาที จากเดิม 06.00 น. เป็น 05.30 น. เพื่อลดความแออัด เนื่องจากช่วงเร่งด่วนเช้า มีรถวิ่งชั่วโมงละ 6 ขบวน หรือขบวนละ 10 นาที จากปัจจุบัน มีรถให้บริการทั้งหมด 9 ขบวน แบ่งเป็นให้บริการในชั่วโมงเร่งด่วน 7 ขบวน สำรอง 1 ขบวน และซ่อมบำรุงใหญ่อีก 1 ขบวน ทั้งนี้ การซ่อมบำรุงใหญ่ทั้ง 9 ขบวน คาดว่าจะดำเนินการครบทั้งหมด เดือนมีนาคม ปี 2561   

ส่วนการติดตั้งประตูกั้นชานชาลารถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ หลังยกเลิกการประมูลไปนั้น รัฐมนตรีช่วยคมนาคม สั่งให้ชะลอไปก่อน เพื่อรอข้อสรุปโครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน เพื่อไม่ให้มีปัญหาด้านเทคนิค กรณีรถไฟความเร็วสูงใช้ลำตัวกว้าง ระหว่างนี้ จึงเสนอให้ติดตั้งราวสแตนเลสกั้นชานชาลา เหมือนเช่นเดียวกับรถไฟชินคันเซ็นของญี่ปุ่น และให้มีพนักงานรักษาความปลอดภัยคอยดูแลบนชั้นชานชาลา ซึ่งรูปแบบนี้ จะใช้เงินลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท ใช้เวลาติดตั้งแล้วเสร็จ 6 เดือน เมื่อเทียบกับการทำประตูกั้นชานชาลา ใช้เวลาติดตั้ง 18 เดือน เริ่มประมูลต้นปีหน้า คาดได้ผู้รับจ้างกลางปี ติดตั้งแล้วเสร็จ เดือนกันยายน - ตุลาคม 

ด้านนายสุเทพ พันธุ์เพ็ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มสายงานปฏิบัติการและซ่อมบำรุง แอร์พอร์ตเรลลิงก์ กล่าวว่า การปรับตารางเดินรถเที่ยวแรกเป็น 05.30 น. มีกระบวนการจะต้องเสนอขออนุมัติจาก การรถไฟแห่งประเทศไทย ก่อน ซึ่ง 30 นาทีที่เร็วขึ้น ในช่วงเช้าจะเดินรถได้ 3 เที่ยว รองรับได้เที่ยวละ 700 คน หรือประมาณ 2,100 คน

ปัจจุบัน แอร์พอร์ตลิงก์ มีผู้โดยสารใช้บริการ ในวันธรรมดา จันทร์-พฤหัสบดี 70,000 คนต่อวัน วันศุกร์ 80,000 คนต่อวัน และเสาร์-อาทิตย์ 50,000 คนต่อวัน