ไม่พบผลการค้นหา
'พิชัย นริพทะพันธุ์' คาดหลังเจอหมายเรียกครั้งที่ 10 หวังกลบข่าวกระแสนิยมรัฐบาลตก พร้อมตั้งคำถามเข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อเข้ารับทราบข้อหาฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดตามประกาศ คสช. ฉบับวันที่ 39/2557 ในวันที่ 15 มีนาคม 2556 โดยพล.ต.วิจารณ์ จดแตง เป็นผู้กล่าวหา นับเป็นครั้งที่ 10 ที่มีการออกหมายเรียกนับตั้งแต่ปี 2557 

โดยนายพิชัย กล่าวว่าตามที่ได้มีหมายเรียกและให้ตนไปพบเจ้าหน้าที่นั้น ยังไม่รู้ว่ามีสาเหตุใดเพราะระยะหลังข่าวส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่สื่อคาดหวังว่าตนจะลงสมัครผู้ว่า กทม. และตนเองก็ไม่ค่อยได้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลบ่อยนัก นอกจากจะมีสาเหตุของเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างมากจริงๆ และได้มีการเสนอข้อแนะนำอย่างสร้างสรรค์ เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ประชาชนเดือดร้อนตามที่ได้พูดคุยกันไว้ อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจก็ดีขึ้นมาบ้างแต่ก็น่าจะดีกว่านี้มาก

หากได้รัฐบาลจากการเลือกตั้งที่มีความรู้ความสามารถในการบริหาร และไม่ต้องติดกรอบปัญหาการเมืองที่ยังเป็นเงื่อนไขของหลายประเทศที่ไม่เจรจาการค้าด้วย และยังมีปัญหาการกระจายรายได้ที่มีเพียงคนจำนวนน้อยที่ได้ประโยชน์จากการเจริญเติบโต จนดูเหมือนเป็นการผูกขาดประเทศนี้ไปแล้ว ซึ่งการผูกขาดนี้จะปิดกั้นโอกาสของประชาชนส่วนใหญ่ที่จะพัฒนาก้าวขึ้นมาได้ จึงไม่เข้าใจว่าจะมาเรียกตนด้วยเหตุใด อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าต้องการเรียกตนเพื่อกลบข่าวกระแสนิยมที่กำลังตกต่ำอย่างมากของรัฐบาลในปัจจุบัน 

ขณะเดียวกันกระแสการทุจริตคอร์รัปชั่นที่พุ่งขึ้นสูง จากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยที่ระบุว่าดัชนีคอร์รัปชั่นพุ่งสูงสุดในรอบ 3 ปี และอาจมีการทุจริตคอรับชั่นพุ่งขึ้นถึง 2 แสนล้านบาท อีกทั้งดุสิตโพลล์ยังให้รัฐบาลสอบตกเรื่องทุจริตคอรัปชั่นโดยได้คะแนนเพียง 4.85 จาก คะแนนเต็ม 10 และแม้องค์กรความโปร่งใสสากลจะจัดอันดับความโปร่งใสของไทยอยู่ที่ 96 ซึ่งดีกว่าปีที่แล้วที่ 101 แต่ก็ยังต่ำกว่า ปี 2558 ที่อันดับ 76 มาก และ องค์กรความโปร่งใสสากลนี้ยังระบุว่าไทยมีการจ่ายใต้โต๊ะเป็นอันดับ 3 ซึ่งสูงกว่า กัมพูชา และ เมียนมาร์เสียอีก ดังนั้นจึงขออย่าได้นำการเรียกตนเพื่อกลบปัญหาเหล่านี้ 

ทั้งนี้จึงอยากถามว่า การเรียกตนทั้ง 10 หนนี้ เป็นปัญหาสิทธิมนุษยชนหรือไม่ เพราะรัฐบาลได้มีมติให้สิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติ แต่กลับดำเนินการตรงข้ามหมด แม้กระทั่งองค์กรสิทธิมนุษยชนสากล เช่น ฮิวเมนไรท์วอทช์ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ฯลฯ ยังตำหนิรัฐบาลหลายครั้ง

อ่านเพิ่มเติม