นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 4 มาตรการ เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยให้ความช่วยเหลือ จำนวน 10 เดือน ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2561 – ก.ย. 2562 กรมบัญชีกลางในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการจ่ายเงินช่วยเหลือตามมาตรการดังกล่าว ได้เตรียมความพร้อมทั้งข้อมูลและระบบในการจ่ายเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Money ไว้พร้อมแล้ว รวมทั้งกำหนดระยะเวลาในการจ่าย
โดยมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาผู้มีสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถชำระเงินได้ทุกช่องทาง ได้แก่ ชำระเงินที่สำนักงานการไฟฟ้า/ประปา หรือตัวแทนจุดบริการรับชำระเงินแอปพลิเคชัน อินเทอร์เน็ต แบงก์กิ้ง หักบัญชีเงินฝากธนาคาร/บัญชีบัตรเครดิต และตัวแทนเก็บเงิน ทั้งนี้ การไฟฟ้า/ประปาจะประชาสัมพันธ์แนวทางปฏิบัติให้ทราบโดยกรมบัญชีกลางจะโอนเงินชดเชยค่าไฟฟ้า/น้ำประปา เข้ากระเป๋าเงินอี-มันนี (e-Money) ตามจำนวนที่ผู้มีสิทธิได้ชำระไว้ตามจริง ทุกวันที่ 18 ของเดือน เริ่มจ่ายเดือนแรก 18 ก.พ. 2562
มาตรการที่ 2 สนับสนุนค่าใช้จ่ายในช่วงปลายปีให้แก่ผู้มีรายได้น้อย จำนวน 500 บาทต่อคน จำนวน 14.5 ล้านคน ซึ่งจ่ายให้เพียงครั้งเดียว กรมบัญชีกลางจะทยอยจ่ายเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ให้กับผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว จำนวน 11.4 ล้านคน ภายในวันที่ 8-10 ธ.ค. 2561 และจะจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติม ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในกลุ่มผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ในปี 2560 ในวันที่ 5 ม.ค. 2562 และ 1 ก.พ. 2562
มาตรการที่ 3 ช่วยเหลือค่าเดินทางไปรับการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นเกี่ยวกับสุขภาพ สำหรับผู้มีสิทธิที่มีอายุครบ 65 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินจำนวน 1,000 บาทต่อคน เพียงครั้งเดียว กรมบัญชีกลางจะโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอี-มันนี (e-Money) ให้กับผู้มีสิทธิที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว ทุกวันที่ 21 ของเดือน เริ่มจ่ายเดือนแรกวันที่ 21 ธ.ค. 2561
หากผู้มีสิทธิ์รายใดมีอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ในระหว่างเดือน ธ.ค. 2561 – ก.ย. 2562 จะได้รับเงินวันที่ 21 ของเดือนเกิด สำหรับผู้มีสิทธิ์ที่ลงทะเบียนเพิ่มเติมภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน จะเริ่มจ่ายในวันที่ 5 ม.ค. 2562 และ 1 ก.พ. 2562 หลังจากนั้นจะได้รับเงินทุกวันที่ 21 ของเดือนเกิดเช่นเดียวกัน
มาตรการช่วยเหลือค่าเช่าบ้าน สำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่มีอายุครบ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งมีภาระค่าเช่าบ้านและไม่มีที่พักอาศัย จะได้รับเงินช่วยเหลือจำนวน 400 บาทต่อคนต่อเดือน กรมบัญชีกลางจะโอนเงินให้กับผู้มีสิทธิ์ ทุกวันที่ 12 ของเดือน เริ่มจ่ายเดือนแรกวันที่ 12 ธ.ค.นี้ หากผู้มีสิทธิ์รายใดมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในระหว่างเดือน ธ.ค. 2561 – ก.ย. 2562 จะได้รับเงินในเดือนเกิดเป็นครั้งแรกจนสิ้นสุดมาตรการ สำหรับผู้มีสิทธิ์ที่ลงทะเบียนเพิ่มเติมภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืนฯ จะเริ่มจ่ายในวันที่ 5 ม.ค. 2562 และวันที่ 1 ก.พ. 2562 เป็นครั้งแรก จากนั้นจะโอนเงินช่วยเหลือให้ทุกวันที่ 12 ของเดือนเกิดเช่นเดียวกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง