ไม่พบผลการค้นหา
'โรม' ปราศรัยนครพนม ชูนโยบายสวัสดิการถ้วนหน้า-แก้ปัญหาเกษตร-คืนที่ดินให้ประชาชน ยกย่องคนอีสานต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ขอกาก้าวไกลให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 ที่วัดโพธิ์ศรี อ.บ้านแพง จ.นครพนม รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ปราศรัยแนะนำ เทิดศักดิ์ แพงสาร หรือ ‘ทนายเก๋’ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 1 (อ.บ้านแพง อ.ศรีสงคราม อ.นาทม อ.นาหว้า) พรรคก้าวไกล พร้อมนำเสนอนโยบายพรรค มีประชาชนร่วมรับฟังราว 300 คน

รังสิมันต์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลมีนโยบายเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศในทุกด้าน และยืนยันว่าทุกนโยบายทำได้จริง ด้านการเมือง เริ่มต้นที่การปฏิรูปกองทัพ จัดการงบประมาณที่ใช้ไม่ถูกจุด นำมาจัดสรรใหม่ให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชนทุกพื้นที่และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ ด้านเศรษฐกิจ เราต้องการยุติทุนผูกขาดเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถแข่งขันและเติบโตได้ สร้างสวัสดิการถ้วนหน้าครบวงจร ทั้งเงินเด็กเล็กเดือนละ 1,200 บาทต่อเดือน เงินผู้สูงอายุ 3,000 บาทต่อเดือน ค่าแรงงานขั้นต่ำ 450 บาททันทีพร้อมระบบปรับขึ้นทุกปี ช่วยค่าเช่าบ้านหรือค่าเช่าห้องพักเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย จึงขอให้พี่น้องประชาชนกาพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งที่จะมาถึง เปลี่ยนประเทศไทยให้ไม่เหมือนเดิม

“การจะแก้ปัญหาของประเทศ ต้องชนกับผู้มีอำนาจ พรรคก้าวไกลพร้อมเคียงข้างประชาชนและพร้อมชนกับโครงสร้างอำนาจเหล่านั้น ตั้งแต่อดีตพี่น้องคนอีสานเป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เช่นยุค 4 รัฐมนตรีอีสาน ที่ต่อสู้กับระบอบเผด็จการและความอยุติธรรม ผมชื่นชมยกย่องการต่อสู้ของพวกเขาและยึดเป็นแบบอย่าง ทำให้การอภิปรายมีลักษณะทะลุฟ้าทะลุแผ่นดินอย่างที่ผ่านมา และพร้อมจะทำหน้าที่เพื่อประชาชนอย่างตรงไปตรงมาต่อไป” รังสิมันต์กล่าว

ระหว่างการปราศรัย ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนที่มารับฟังปราศรัยถามคำถาม ส่วนมากเกี่ยวกับปัญหาการเกษตร ปัญหาปากท้องและที่ดินทำกิน โฆษกพรรคก้าวไกลจึงกล่าวถึงแนวทางการลดต้นทุนและการเพิ่มมูลค่าแก่สินค้าเกษตร เช่น จะทำอย่างไรให้พี่น้องเกษตรกรสามารถเข้าถึงปุ๋ยราคาถูก หรือการนำผลผลิตทางการเกษตรที่ราคาตกมาเพิ่มมูลค่าด้วยการผลิตสุรา กลายเป็นสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องปลดล็อกการแข่งขันให้มีความเป็นธรรมระหว่างผู้ผลิตรายใหญ่กับผู้ผลิตรายย่อย ซึ่งพรรคก้าวไกลเคยเสนอร่างกฎหมายสุราก้าวหน้า แต่ไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาฯ

นอกจากนี้ จากการสอบถามประชาชนที่มาร่วมฟังปราศรัย พบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ในพื้นที่ ไม่มีโฉนดที่ดิน รังสิมันต์จึงกล่าวถึงนโยบายคืนที่ดินให้ประชาชน เปลี่ยนที่ดิน สปก. ให้เป็นโฉนดเกษตรกร เพื่อเร่งแก้ปัญหาข้อพิพาทที่ดิน ตั้งเป้าออกเอกสารสิทธิ์รวมกัน 10 ล้านไร่ภายใน 4 ปี เพื่อให้เกษตรกรมีที่ดินทำกินอย่างยั่งยืน