ที่บริเวณหน้าศาลจังหวัดสงขลา ตัวแทนชาวบ้านเครือข่ายคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา และ เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นพร้อมเครือข่ายสนับสนุนได้ร่วมกันอ่านจดหมาย 2 ฉบับ ที่เตรียมจะนำมายื่นให้กับนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ที่เดินเท้าระยะทาง 75 กิโลเมตร จากอำเภอเทพา สู่ อำเภอเมืองสงขลา เมื่อ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่กลับถูกสลายการชุมนุมเมื่อเย็นวานนี้ ทำให้ไม่สามารถยื่นจดหมายดังกล่าวได้
โดยจดหมายนั้นมี 2 ฉบับ คือ ขอให้ยุติโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา และ ยกเลิกโครงการท่าเรือน้ำลึกสงขลา 2 ซึ่งมีตัวแทนเยาวชน ในพื้นที่เป็นตัวแทนอ่านหนังสือทั้ง 2 ฉบับ ถึงนายกรัฐมนตรี ต่อหน้าสื่อมวลชน และเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีออกมาชี้แจงถึงสาเหตุที่ไม่ยอมรับหนังสือของชาวบ้าน โดยยืนยันว่าเดินเท้ามาเพียงเพื่อต้องการที่จะบอกให้รัฐบาลได้ทราบว่า ฝ่ายชาวบ้านยังไม่เคยได้เจรจาร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่โครงการ แต่รัฐบาลกลับเลือกใช้วิธีการสลายการชุมนุมแทน
ทั้งนี้มองว่านายกรัฐมนตรีควรจะใช้หลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ในการปกครองประเทศ และควรที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนบนโต๊ะ หากทัศนคติในการแก้ไขปัญหาอย่างที่เป็นอยู่นั้น ทำให้มองว่ามีความชัดเจนที่รัฐบาลเลือกที่จะอยู่ฝ่ายกลุ่มทุน
ขณะนี้มีแกนนำถูกจับกุมและคุมตัวมาฝากขังที่ศาลจังหวัดสงขลา 15 คน (เป็นเยาวชน 1 คน แยกส่งศาลเด็กฯ)ยังไม่ได้รับการประกันตัวแม้ศาลจังหวัดสงขลาอนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากเตรียมหลักทรัพย์มาไม่พร้อม โดยหลักทรัพย์ในการค้ำประกันนั้นมีมูลค่าคนละ 9 หมื่นบาท ซึ่งจะต้องใช้เงินสด 1,350,000 บาท ในการยื่นเรื่องขอประกันตัว ทั้ง 15 คน อย่างไรก็ตามจะมีการยื่นขอประกันตัวอีกครั้งในวันพรุ่งนี้