ไม่พบผลการค้นหา
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงคืบหน้าการดูแล 8 ชีวิตทีมหมูป่า เบื้องต้นมีสุขภาพดี มีเพียง 2 รายพบอาการปอดอักเสบเบื้องต้น ขณะที่ครอบครัวทีมหมูป่า4คนแรก ได้เยี่ยมผ่านห้องกระจกแล้ว ส่วนรมว.มหาดไทย พอใจการกู้ภัยเด็ก 13 คนได้รับความร่วมมืออย่างดี แจงชาวบ้านไม่ต้องการเงินชดเชยน้ำท่วม

นพ.เจษฎา โชคดํารงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวความคืบหน้าการรักษาสมาชิกทีมหมูป่า ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จ.เชียงราย ว่า เมื่อวานนี้พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลงพื้นที่พบปะกับญาติผู้ป่วยชุดแรก โดยทางโรงพยาบาลและทีมแพทย์ได้ประสานกับทีมแพทย์ภาคสนาม เพื่อป้องกันและควบคุมโรคระหว่างลำเลียงผู้ประสบเหตุที่ถูกนำตัวมาโรงพยาบาล 

ผู้ป่วยชุดแรกที่มีอายุระหว่าง14-16 ปี แรกรับมีอุณหภูมิต่ำนื่องจากอยู่ในพื้นที่อับชื้นมานาน เจ้าหน้าที่ได้ดูแลโดยให้เครื่องทำความอบอุ่น พบ 2 คน มีผลเอ็กซเรย์ผิดปกติที่ปอด ซึ่งสงสัยว่าจะเป็นปอดอักเสบ นอกจากนี้ยังมี 1คน มีแผลถลอกที่ข้อเท้าขวา ล่าสุดผู้ป่วยทุกคนไม่มีไข้ สามารถทำกิจกรรมประจำวันได้ปกติ ลุกขึ้นนั่งบนเตียงได้เอง รับประทานอาหารปกติ แต่พยายามควบคุมให้รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย ไม่มีรสจัด

เช่นเดียวกับ ผู้ป่วยชุดที่ 2 ที่มีอายุระหว่าง 12-14 ปี แรกรับทั้ง 4 คนมีอุณหภูมิร่างกายต่ำ แพทย์ได้ให้เครื่องอบอุ่น และยังไม่สามารถกินได้ เบื้องต้นต้องให้ทั้ง 8 คน อยู่ในโรงพยาบาล 1 สัปดาห์ เพื่อเช็คสภาพร่างกาย 

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้ง 8 คน มีสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตที่ดี และในเวลานี้ยังไม่มีอาการอะไรที่น่าเป็นห่วงเป็นพิเศษ ขณะที่ญาติของทีมหมูป่า 4 คนแรก แพทย์อนุญาตให้เข้าเยี่ยมแล้วผ่านกระจก ตามมาตรการควบคุมโรค ทั้งนี้หากผลแลปที่จะออกมาใน1-2 วันนี้ ไม่มีการติดเชื้อหรือโรคอุบัติใหม่ ก็จะให้ครอบครัวเข้าเยี่ยมตามมาตรการควบคุมโรค โดยสวมหน้ากากอนามัย หมวก เสื้อกาว อยู่ห่างจากผู้ป่วย 2 เมตร และหากมั่นใจแล้วว่าไม่มีการติดเชื้อจึงจะให้เข้าญาติเข้าเยี่ยมได้ตามปกติ 

รมว.มหาดไทย แจงชาวบ้านไม่ต้องการเงินชดเชยน้ำท่วม

พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง การช่วยเหลือทีมหมู่ป่าอะคาเดมี ที่ล่าสุดสามารถลำเลียงออกมาจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ได้แล้ว 8 คน โดยผู้บัญชาการ ศอร. จะร่วมประชุมกับชุดปฏิบัติงานทั้งหมด ทั้งไทยและผู้เชี่ยวชาญจากต่างชาติ เพื่อสรุปการทำงานตลอด 2 วันที่ผ่านมา และ นำปัญหาอุปสรรค มาปรับปรุงสำหรับแผนงานที่จะเข้าไปช่วยเหลืออีก 5 คนที่ยังติดอยู่ภายในถ้ำ ซึ่งช่วงเช้าวันนี้จะประเมินสถานการณ์ก่อนจะดำเนินการ 

ส่วนกรณีที่ อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ผู้ก่อตั้งบริษัทเทสลา และ สเปซเอ็กซ์ แคปซูล หรือ เรือดำน้ำจิ๋ว ได้นำทีมพร้อมอุปกรณ์มาช่วยเหลือไทยนั้น พลเอกอนุพงษ์ บอกว่า เมื่อวานนี้ระหว่างการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี ก็ได้พูดคุยกับ นาย อีลอน มัสก์ นานเกือบ 1 ชั่วโมง และให้ความสนใจรวมถึงสอบถามถึงวิธีการทำงาน ซึ่งนานอีลอน มัสก์ อธิบายวิธีการทำงานที่นำมาให้ความช่วยเหลือ จากนั้นได้เดินทางเข้าพื้นที่ เพื่อสำรวจสภาพภายในถ้ำ พร้อมบอกว่าจะทิ้งอุปกรณ์ช่วยเหลือไว้ให้กับชุดปฏิบัติการและจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้ง ส่วนจะใช้หรือไม่ใช้นั้น อยู่ที่การพิจารณาของ ผบ.ศอร. ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ 

ทั้งนี้ย้ำว่า แม้จะสามารถช่วยเหลือออกมาได้ 8 คน แต่ยังเป็นภารกิจที่มีความเสี่ยงสูงอยู่ ดังนั้นจึงต้องซักซ้อมทุกอย่าง เพื่อให้เกิดข้อผิดพลาดนิอยที่สุด โดยเฉพาะเรื่องท่ออากาศ ซึ่งยังคงใช้ชุดปฏิบัติการนักดำน้ำชุดเดิม เพราะว่ามีความชำนาญการเข้า-ออก ภายในถ้ำ จึงไม่อยากเปลี่ยนทีม เพราะอาจมีข้อขัดข้องเกิดขึ้นได้ ส่วนปฏิบัติการที่ช่วยเหลือครั้งละ 4 คนนั้น เป็นเรื่องความคล่องตัวของนักดำน้ำ เนื่องจากระยะเวลาไป-กลับใช้เวลานาน รวมถึงต้องคำนึงความปลอดภัยของนักดำน้ำ และ ทีมหมูป่า ส่วนวันนี้จะช่วยได้กี่คนต้องประเมินกันอีกครั้ง 

พร้อมกันนี้ ยังได้ขอบคุณความร่วมมือของทุกฝ่าย ทั้งชาวบ้านในพื้นที่ ตลอดจนทุกภาคส่วนที่ส่งอุปกรณ์มาร่วมช่วยเหลือภารกิจครั้งนี้ ที่แสดงเจตนาไม่รับเงินเยียวยาความเสียหายนาข้าว ที่ถูกน้ำท่วม เพราะถือว่าความเสียหายครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือชีวิตของลูกหลานเอาไว้ 

“ยังมีความสวยงามของคนทำงานที่นั่นที่ไม่ถามอะไรที่มันปวดหัวชาวบ้านเขาไม่เคยถามว่าเขาจะต้องทานอะไรผมก็ไม่นึกว่าจะมีชาวบ้านเข้ามาช่วยกันขนาดนี้ เขาไม่มีเงินจนแต่ไม่เคยถามเขาไม่มานั่งพูดมากเยอะแต่ทำจริงๆ....ตั้งแต่เริ่มทำงานมีการสำรวจแล้วว่ามีการเพาะปลูกกี่ร้อยไร่ แต่ มีสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจชาวบ้านเขาบอกว่าเขาไม่ต้องการได้ส่วนนี้เค้ายอมให้เด็ก”

อย่างไรก็ตามโดยระเบียบก็จะมีการพิจารณาชดเชยความเสียหาย ตามเกณฑ์ของระเบียบกระทรวงกระทรวงการคลัง คือไร่ละ 1,113 บาท รายละไม่เกิน 30 ไร่ รวมถึงจะมีการนำเมล็ดพันธ์พืชไปแจกให้กับชาวนาด้วย 

ทั้งนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งถึงแผนการกู้ภัย และการบริหารจัดการ ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการปฏิบัติการภารกิจครั้งนี้ จะได้มีการทำข้อสรุปเพื่อนำมาเป็นโมเดล ที่จะไปใช้ในภารกิจกู้ภัยครั้งนี้ต่อไป โดยเฉพาะการช่วยเหลือภายในถ้ำ ขณะเดียวกันกองทัพเรือเอง ก็จะส่งหน่วยซีล ไปอบรม เพื่อหาประสบการณ์เรื่องการดำน้ำในถ้ำเพิ่มเติม เพราะหลักสูตรการดำน้ำที่เรียนมามีความแตกต่างกัน