ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2561 เวลาประมาณ 02.30 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารราชเทวี อพาร์ทเมนต์ เลขที่ 488/18 ซอยเพชรบุรี 18 แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นอาคารสูง 14 ชั้น และมีผู้พักอาศัยกว่า 100 ห้อง
เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย และผู้บาดเจ็บจำนวน 44 คน ซึ่งถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนใหญ่เกิดจากการสำลักควัน จึงได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์และสำนักงาน คปภ. เขตท่าพระ ลงพื้นที่เพื่อติดตามและประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านประกันภัยอย่างทันท่วงที จนได้มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนเพื่อเยียวยาเบื้องต้นให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้แล้ว ซึ่งสำนักงานคปภ.จะติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อเร่งรัดให้มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนส่วนที่เหลือต่อไป
ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ได้ตรวจสอบข้อมูล พบว่า อาคารดังกล่าวได้ทำประกันภัยความเสี่ยงภัยสำหรับธุรกิจ (ACCIDENTAL DAMAGE (PROPERTY) INSURANCE POLICY FOR BUSINESS) ไว้กับบริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 2017-P1078329-PAC เริ่มต้นความคุ้มครองเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2560 และสิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 4 ก.ค. 2561 โดยมีทุนประกันภัย 314 ล้านบาท ประกอบด้วย สิ่งปลูกสร้าง(รวมฐานราก) ทุนประกันภัย 300 ล้านบาท การสูญเสียค่าเช่า (สูงสุด 6 เดือน) ทุนประกันภัย 14 ล้านบาท และได้มีการขยายความคุ้มครองถึงความรับผิดชอบต่อความเสียหายทรัพย์สินและการบาดเจ็บทางร่างการต่อบุคคลภายนอกโดยจำกัดความคุ้มครองไม่เกิน 15 ล้านบาท ต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้งและตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และสำนักงาน คปภ. เขตท่าพระ ประสานบริษัทประกันภัยเร่งสรุปความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนด้วยความรวดเร็ว ถูกต้องและเป็นธรรมต่อไป ซึ่งในเบื้องต้นบริษัทประกันภัย ได้เยียวยาให้กับทายาทของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย รายละ 100,000 บาท โดยทายาทของนายพีรณัฐ อินวกูล (นักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา) ไดัรับเงินเยียวยาเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว ส่วนอีก 2 ราย อยู่ระหว่างการติดต่อเพื่อให้มารับเงิน
เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้ได้รับความเสียหายในครั้งนี้ และจะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการประกันภัยและประสานงานด้านค่าสินไหมทดแทนอย่างเต็มที่ อุบัติเหตุและอุบัติภัยสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยที่เราไม่คาดคิด และเมื่อเกิดขึ้นแล้วอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้
ดังนั้น ไม่ควรประมาทและมองข้ามความสำคัญของการทำประกันภัยที่เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงที่ดีที่สุด ที่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระความเดือดร้อนของท่านได้ ซึ่งประชาชนและผู้ประกอบการต่างๆสามารถเลือกซื้อกรมธรรม์ประกันภัยได้ตามความเหมาะสมกับสภาพความเสี่ยงของตนเอง อย่างไรก็ตาม ขอให้พิจารณาจากสถานที่ตั้ง และลักษณะการใช้อาคารของ ผู้เอาประกันภัย รวมทั้งความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัยด้วย