วันที่ 7 ก.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มูรธาธร คำบุศย์ เจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ในฐานะผู้ถูกกล่าวหาร่วมในคดีทุจริตถุงมือยาง ได้ยื่นหนังสือถึงพล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ยึด อายัคทรัพย์สินของ สุชาติ เตชจักรเสมา อดีตประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) ไว้ระหว่างการไต่สวน และขอให้ตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของ สุชาติ อันเป็นการป้องกันการยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สิน เพื่อมิให้เกิดความเสียหาย หลัง คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แจ้งข้อกล่าวหา สุชาติ กรณีการจัดทำสัญญาซื้อขายถุงมือยางของ อคส. สืบเนื่องมาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของ ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย จนนำมาสู่การได้ยื่นร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
โดยหนังสือระบุอีกว่า ข้อเท็จจริงปรากฎพยานหลักฐานหนักแน่นว่า สุชาติ เป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการจัดทำสัญญาซื้อขายถุงมือยางระหว่างองค์การคลังสินค้ากับบริษัทเอกชนมาตั้งแต่ต้น จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อองค์การคลังสินค้าที่แท้จริง ต่อมา สุชาติได้แสดงบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายหลังพ้นจากตำแหน่งประธานกรรมการ อคส. พบว่ามีจำนวนทรัพย์สินเพิ่มขึ้นกว่า 150 ล้านบาท ในระยะเวลาเพียง 1 ปีเศษ มีทรัพย์สินที่เพิ่มมากอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และเพื่อมิให้มีการยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินที่อาจเกี่ยวข้องกับกรณีถูกกล่าวหาเรื่องการจัดทำสัญญาซื้อขายถุงมือยางของ อคส. ที่ คณะกรรมการป.ป.ช.กำลังสอบอยู่ จึงขอให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ปฏิบัติบัติตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 โดยใช้อำนาจตามมาตรา 34(4) ของกฎหมายดังกล่าว ขอให้ศาลออกหมายเพื่อตรวจสอบ ค้น ยึด หรืออายัดเอกสาร ทรัพย์สิน หรือหลักฐานอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นตามบัญชีแสดงทรัพย์สินหนี้สินที่นายสุชาติยื่นภายหลังการพ้นตำแหน่งประธาน อคส. และขอให้ คณะกรรมการป.ป.ช.ใช้อำนาจตามมาตรา 38 ดำเนินการขอข้อมูลที่เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินของนายสุชาติจากคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ตรวจสอบและประกอบการไต่สวนคดีนี้ด้วย