กรมสรรพากรได้พัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบสนองต่อการให้บริการประชาชน เพื่อไปสู่ระบบราชการ 4.0 ด้วยการปรับปรุงกระบวนการให้บริการคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารผ่านระบบการโอนเงิน แบบผ่านพร้อมเพย์ (PromptPay) ตั้งแต่ปีภาษี 2559 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียภาษี
โดยลดภาระในการเดินทางไปธนาคารเพื่อนำเช็คไปเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร ไม่ต้องรอรับเช็คคืนภาษีทางไปรษณีย์ รวมทั้งเป็นการแก้ปัญหาเรื่องเช็คคืนภาษีส่งไม่ถึงมือผู้รับหรือเช็คคืนภาษีสูญหาย อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการพิมพ์เช็คและจัดส่งทางไปรษณีย์ซึ่งเป็นต้นทุนของประเทศ
นายปิ่นสาย สุรัสวดี รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษีในฐานะโฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า จากข้อมูลสถิติการยื่นแบบฯ และการขอคืนภาษีในปีภาษี 2560 พบว่า ผู้ขอคืนภาษีส่วนใหญ่มีการผูกบัญชีเงินฝากธนาคารด้วยเลขประจำตัวประชาชน เพื่อรับเงินผ่านระบบการโอนเงินแบบพร้อมเพย์มากกว่าร้อยละ 70 (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2561) สำหรับปีภาษี 2561
ผู้ที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.90 ภ.ง.ด.91) ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ไม่ว่าจะผ่านทางเว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th หรือ ผ่านทาง RD Smart Tax Application และมีความประสงค์ขอคืนภาษี กรณีที่แบบฯ ดังกล่าวไม่ติดเกณฑ์การตรวจสอบก่อนคืนภาษี กรมสรรพากรได้เริ่มส่งข้อมูลการคืนภาษีให้ธนาคารแล้ว ซึ่งหากผู้เสียภาษีลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชนไว้ ธนาคารจะนำเงินคืนภาษีเข้าบัญชีฝากธนาคารที่ผู้เสียภาษีได้ลงทะเบียนในวันทำการถัดไป
กรมสรรพากรจึงขอรณรงค์ให้ผู้เสียภาษียื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.90 ภ.ง.ด.91) ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์และลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน ซึ่งผู้เสียภาษีจะได้รับเงินคืนภาษีอย่างถูกต้อง สะดวก และรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามเพื่ออำนวยความสะดวกในการรับเงินภาษีคืน สำหรับผู้ขอคืนที่ไม่ได้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน กรมสรรพากรมีช่องทางการรับเงินคืนภาษีโดยให้ผู้ขอคืนนำหนังสือแจ้งคืนเงินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่กรมจัดส่งให้ทางไปรษณีย์พร้อมด้วยบัตรประจำตัวประชาชน และหรือเอกสารหลักฐาน ซึ่งแสดงถึงฐานะของผู้มีเงินได้ที่มีสิทธิได้รับคืนเงินภาษีไปติดต่อเพื่อขอรับเงินคืนภาษีได้ที่ธนาคารภายในวันที่ที่ระบุไว้ในหนังสือ ซึ่งผู้เสียภาษีจะได้รับเงินคืนภาษีอย่างถูกต้อง สะดวกและรวดเร็วเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ กรมสรรพากร ได้ยกเลิกการส่งคืนเงินภาษีทางไปรษณีย์เรียบร้อยแล้ว โดยให้ใช้ช่องทางการคืนภาษีระบบอื่นทดแทน เนื่องจากปัจจุบันประชาชนร้อยละ 70 หันมาใช้พร้อมเพย์ในการคืนภาษี และประชาชนที่รับเงินคืนภาษีผ่านเช็คมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องทุกปี