ไม่พบผลการค้นหา
คปภ.เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อ - แชร์ "ข้อมูล Black List บริษัทประกันภัย" แนะตรวจสอบให้ชัดเจน หลายข้อความเป็นของเก่า ยืนยันกำกับดูแลคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านประกันภัยอย่างเต็มที่

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่มีกระแสข่าวและการส่งต่อข้อความเกี่ยวกับรายชื่อบริษัทประกันวินาศภัยที่ถูก Black List เกี่ยวกับสถานะทางการเงินและการไม่ปฏิบัติตามสัญญาประกันภัย ผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ นั้น

สำนัก คปภ.ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว พบว่า เป็นข้อความเก่าที่มีการส่งต่อกันมาโดยไม่ปรากฏแหล่งที่มาของข้อมูลและไม่เป็นความจริง เนื่องจากในปัจจุบันบริษัทประกันวินาศภัยที่ถูกกล่าวอ้าง ได้แก่ บริษัท พาณิชยการประกันภัย จำกัด, บริษัท สัมพันธ์ประกันภัย จำกัด, บริษัท ลิเบอร์ตี้ประกันภัย จำกัด, และบริษัท พัชรประกันภัย จำกัด ได้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยไปแล้วในระหว่างปี 2547 ถึงปี 2557 

สำหรับบริษัทประกันวินาศภัยที่ถูกกล่าวอ้างอีก 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน), บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน), บริษัท เอราวัณประกันภัย จำกัด (มหาชน), และบริษัท สินทรัพย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันมีฐานะการเงินและการดำเนินงานเป็นไปตามที่กฎหมายว่าด้วย พระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 กำหนดไว้

ดังนั้น ข้อความที่มีการส่งไลน์แอปพลิเคชันดังกล่าว จึงสร้างความเสียหายต่อภาพรวมของภาคอุตสาหกรรมประกันภัย รวมถึงทำลายความเชื่อมั่นของผู้ทำประกันภัยและประชาชนทั่วไป ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทประกันวินาศภัยที่ได้รับความเสียหายจากข่าวลืออันเป็นเท็จ ได้มีการดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่สร้างข่าวลือจนนำไปสู่การออกมาแถลงข่าว และขอโทษผ่านสื่อมวลชน

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันยังคงมีผู้ส่งต่อข้อความดังกล่าวอยู่ ดังนั้น สำนักงาน คปภ. จึงขอให้ประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ ก่อนตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวลือที่ได้รับหรือความถูกต้องของข้อมูลที่มีการส่งต่อกันมา โดยสามารถสืบค้นข้อมูลด้านการประกันภัยได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน คปภ. www.oic.or.th และหากเป็นข่าวที่ไม่จริงหรือข่าวปลอมควรหลีกเลี่ยงการส่งต่อ เนื่องจากตามกฎหมายแล้วผู้ที่ผลิตข่าวเท็จ บิดเบือน และนำออกเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย โดยการนำข้อความเท็จเข้าระบบคอมพิวเตอร์อาจก่อให้เกิดความเสียหาย หรือสร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชน รวมถึงผู้ที่ส่งต่อข้อมูลเท็จโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลเท็จ อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 ซึ่งมีโทษตามกฎหมาย

"สำนักงาน คปภ. เป็นหน่วยงานของรัฐที่กำกับดูแลบริษัทประกันภัยให้มีความมั่นคงและปฏิบัติงานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงให้ความสำคัญกับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านการประกันภัยเป็นอย่างยิ่ง โดยจะติดตามการดำเนินงานของบริษัทประกันภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านการประกันภัยอย่างเต็มที่ ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนที่ทำประกันภัยไว้ มั่นใจได้ว่าจะได้รับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยด้วยความถูกต้อง รวดเร็วและเป็นธรรม ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน คปภ. 1186" เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย