จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจ้องล้มร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 ว่า จนถึงขณะนี้ตนยังคิดในแง่ดีว่าร่างพระราชบัญญัติงบประมาณจะผ่านได้ เพราะรัฐบาลยังมีเสียงข้างมากอยู่ เท่าที่ตรวจสอบเสียงสนับสนุนรัฐบาลยังมีอยู่
ส่วนกรณีที่มีการติงกันว่า การจัดทำงบประมาณปี 2566 ครั้งนี้ทำให้ไม่สามารถจะกู้เพิ่มได้อีกนั้น ตนคิดว่าการจัดทำงบประมาณไม่ว่ารัฐบาลไหน ต้องจัดตามสถานการณ์และสภาพเศรษฐกิจ และแต่ละช่วงสถานการณ์ของประเทศมีความแตกต่างกัน เช่น 2-3 ปีที่ผ่านมา รวมถึงการจัดทำงบประมาณในปีนี้ที่ต้องยอมรับว่า ทั้งโลกไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย เราเจอภาวะวิกฤตหลายวิกฤตซ้อนกัน ทั้ง วิกฤติ โควิด-19 วิกฤติเศรษฐกิจในภาพรวม และสงครามรัสเซียยูเครน ทั้งหมดล้วนมีผลกระทบ และนำมาสู่การจัดทำงบประมาณในปีนี้ มันจะเหมือนกันทุกปีไม่ได้ ตนเชื่อว่ารัฐบาลพยายามทำอย่างดีที่สุดในการจัดทำงบประมาณ ทุกคนอยากเข้าไปแก้ปัญหาได้มากกว่านี้ แต่ภาวะข้อจำกัดทางเศรษฐกิจ ทำให้ทำได้ตามข้อจำกัดที่มีอยู่
เมื่อถามว่า มองฝ่ายค้านเล่นการเมืองมากเกินไปหรือไม่ จุรินทร์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่แต่ละฝ่าย และฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบถือว่าปกติ รัฐบาลก็ชี้แจง เชื่อว่านายกฯ และรัฐมนตรีทุกคนพร้อมชี้แจง
จุรินทร์ ยังกล่าวถึงประเด็นราคาน้ำมันปาล์ม ว่า ตอนนี้มีคณะอนุกรรมการขึ้นมาแล้ว(คณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม) จัดตั้งขึ้นโดยมติของ กนป.(คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ) ซึ่งประกอบด้วย 5 ฝ่าย มีทั้งตัวแทนเกษตรกร ตัวแทนโรงงานสกัด ตัวแทนโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มขวดบริโภคและตัวแทนผู้ส่งออก รวมทั้งตัวแทนภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคณะอนุกรมการชุดนี้จะเป็นผู้พิจารณาดู 2 เรื่องสำคัญ 1.เพื่อให้ราคาเป็นธรรม 2.เพื่อไม่ให้ปริมาณน้ำมันปาล์มบริโภคขาดแคลนในประเทศ ซึ่งปริมาณและราคาที่เป็นธรรมนั้นจะมีการพิจารณาความเหมาะสม ว่าต้นทุนราคาการผลิตน้ำมันปาล์มขวดบริโภคนั้นสูงขึ้นมากน้อยเพียงใด เพราะขณะนี้ราคาผลปาล์มดิบซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตสำคัญราคาสูงขึ้นมากเฉลี่ยกิโลกรัมละ 10 บาท หรือ 9-11 บาท/กก.โดยประมาณซึ่งสูงกว่า 2-3 ปีที่แล้วที่กิโลกรัมละ 2 บาทกว่า ต้นทุนผลปาล์มดิบเพิ่มขึ้นหลายเท่า ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มขวดบริโภคต้นทุนสูงขึ้นประกอบกับราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนการขนส่ง พื้นที่ห่างไกลราคาน้ำมันปาล์มขวดจะสูงขึ้นตามไปด้วยตามระยะทาง เป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันขวดบริโภคเพิ่มสูงขึ้น
กรมการค้าภายในพยายามเจรจาและได้มีการทำโครงสร้างราคาชัดเจน ถ้าผลปาล์มกิโลกรัมเท่านี้ราคาน้ำมันปาล์มบริโภคจะต้องขวดละไม่เกินเท่าไหร่ แต่คณะอนุกรรมการชุดนี้จะเข้ามาดูอีกส่วนหนึ่งเพราะประกอบด้วยทุกฝ่ายที่จะทำให้ราคาอยู่ในราคากำกับตามโครงสร้าง แต่ขณะนี้ราคากำกับตามโครงสร้างสูงกว่าราคาขายจริง เพราะกระทรวงพาณิชย์ประชุมขอความร่วมมือว่าราคาต้องอยู่ในเกณฑ์ราคาที่เหมาะสม แม้จะต่ำกว่าโครงสร้าง ซึ่งได้รับความร่วมมือด้วยดี ขณะนี้ราคาขวดละ 66-68 บาท ต่ำกว่าราคาตามโครงสร้าง แต่อนุกรรมการชุดนี้จะเข้ามาช่วยดูด้วย รวมทั้งดูปริมาณว่าประเทศต้องมีสต๊อกน้ำมันปาล์มสำหรับบริโภคเพียงพอไม่ให้ขาดแคลนกำหนดเกณฑ์ว่าสต๊อกไม่ต่ำกว่าเท่าไหร่ ถ้ามีเกินจำนวนเท่าไหร่ จะต้องมีมาตรการมีเกณฑ์เรื่องส่งออกด้วยหรือไม่ โดยใช้เกณฑ์สต๊อกที่เพียงพอเป็นตัวตั้ง คำนึงถึงผู้บริโภคในประเทศก่อน ซึ่งจากนี้ไปคณะอนุกรรมการชุดนี้จะสามารถดำเนินการได้