น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานส่งมอบกรมธรรม์ประกันชีวิตให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข พร้อมมอบกองทุนสนับสนุนและเยียวยาให้กับ อสม. โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมด้วย
สำหรับการส่งมอบครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและภาคเอกชน คือบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) โดย นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ ได้มอบ
นายกรัฐมนตรีได้กล่าว ชื่นชมและขอบคุณ บุคลากรทุกภาคส่วนที่ได้ เสียสละ อุทิศตน ในการเฝ้าระวังคัดกรองโควิด-19 ทำให้สถานการณ์ในประเทศดีขึ้น อย่างไรก็ตามทางรัฐบาลก็ไม่ได้ประมาท ได้มีการเตรียมการวางแผนร่วมกันกับทั้งภาคเอกชน สังคม อย่างต่อเนื่อง พร้อมเน้นย้ำ สุขภาพ สำคัญที่สุด รองลงมาคือเรื่องเศรษฐกิจ
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าเป็นที่น่าชื่นชมและขอบคุณ ที่บริษัท บีทีเอสฯได้เข้ามาช่วยเหลือบุคลากรสาธารณสุข โดย มอบกรมธรรม์ เงินช่วยเหลือเยียวยา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทางภาคเอกชนจะเข้ามาร่วมมือในการเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับโรคโควิด-19 ไม่ใช่เชื้อลดลงแล้วจะปลอดภัย เพราะสถานการณ์แพร่ระบาด ยังกระจายทั่วโลก สามารถแพร่เชื้อได้ตลอดเวลา จึงต้องควบคุมการแพร่ระบาดจากนอกต่างประเทศ หรือแม้แต่คนที่ไม่ยอมปฎิบัติตามมาตรการของรัฐ ในการเว้นระยะห่าง ทั้งเรื่องใส่หน้ากาก การชุมนุมในพื้นที่นอกการควบคุม ทำความผิด เป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่รัฐบาลได้คำนึงถึงสองเรื่องใหญ่ คือ สุขภาพของคนไทยเป็นหลัก และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลต้องพยายามใช้เงินอย่างระมัดระวัง ไม่ให้เกิดปัญหาในภายหน้า
ย้ำจดหมายเปิดผนึกถึงมหาเศรษฐี-ภาคเอกชน หาแนวทางช่วย ปชช.ร่วมกัน
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงเรื่องส่งจดหมายเปิดผนึกไปยังมหาเศรษฐีกับภาคเอกชนอีกครั้งว่า ต้องการสอบถามแนวทางการช่วยเหลือประชาชน พนักงาน ลูกจ้างในสังกัดเป็นอย่างไร เป็นการเชื่อมโยงในห่วงโซ่ และเสนอแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะต่อไป
อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องทำอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เพราะถูกจับตาจากหลายภาคส่วน ซึ่งตนเองตั้งใจทำอย่างเต็มที่ มุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหา เมื่อท่านเจ็บ ท่านเหนื่อย ตนก็เหนื่อยด้วย เมื่อมีปัญหาตนเองก็ต้องแก้ไขให้ได้ ทำทุกอย่างเพื่อประเทศ ให้เกิดความสามัคคี ไม่แตกแยก เดินหน้าประเทศไปด้วยกัน โดยเฉพาะในช่วงเวลาอันยากลำบาก ดังนั้นเชื่อว่าจากความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจจะทำให้ประเทศไทยผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :